การเสพกับการกิน ผมเพิ่งค้นพบว่ามันเหมือนกันนะ

ในเชิงลบ
การกิน เรากินขนม อร่อยมากเลย มีรสหวานมาก แต่ในขณะนั้นเรากำลังรับสารอาหารอะไรบ้างก็ไม่รู้ที่กำลังจะสะสมในร่างกาย สุดท้าย ถ้ากินเหมือนเดิมทุกวัน เราก็จะอ้วน หรือเป็นเบาหวานในที่สุด

การเสพทางอารมณ์ สมมุติว่าเราปล่อยใจให้คิดถึงใครสักคน ในขณะนั้นเราจะไม่รู้ว่า มันจะมีอารมณ์อยาก รัก หลง เข้ามาเกี่ยวข้อง สุดท้ายแล้วถ้าเราคิดถึงทุกวันๆ เราก็จะกลายเป็นคนที่หลงและคลั่งใคล้ มีแต่ความอยากที่จะเจอ ตลอดเวลา พูดง่ายๆ เมหือนคนบ้า

ในเชิงบวก
หากเรากินพวกผักผลไม้ไปเรื่อยๆ เราไม่รู้เดี๋ยวนั้นหรอกว่า มันจะไปช่้วยอะไรในร่างกายเราบ้าง มันจะใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล ผมเคยได้ยินเรื่องเล่าว่ามีชายแก่คนไทย ไปเที่ยวจีน เขาเดินบนกำแพงเมืองจีน ลุยหิมะ เพื่อจะเที่ยว ได้อย่างไม่หนาว และไม่เหนื่อย ซึ่งสอบถามไป เขาก็บอกว่า เขากินโสมมาตั้งแต่อายุประมาณ 18 จนตอนนี้จะ 80 ก็ยังกินอยู่

หากเราเสพโดย เสพอารมณ์ทางสงบ เช่นการนั่งสมาธิ หรือทำใจให้ปลอดโปร่ง โอเคมันจะไม่ทำให้สติหรือสมาธิประทปัญญาคุณดีขึ้นทันตาเห็น แต่มันจะค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ จนเกิดขึ้นในอนาคต และมันจะมีผลกับร่างกายเหมือนการกินคือ เมื่ออารมร์ได้พักผ่อน ร่างกายก็จะได้พักผ่อนตาม หน้าตาและผิวพรรณของเราจะดี ให้คุณสังเกตุ คนแก่ที่เข้าวัดบ่อยๆ (เข้าด้วยใจนะ ไม่ใช่เข้าบังหน้า) จะมีหน้าตาดี สดใสมาก แม้แต่ผมช่วงที่เพิ่งสึกมาใหม่ๆ ก็มีคนทักว่าหน้าตาสดใสขึ้น เพราะช่วงบวชเราไม่ต้องคิดเรื่องใดๆให้ปวดหัว แล้วได้พักผ่อนที่เพียงพอทั้งทางกายและทางใจ

source: http://ifew.exteen.com/20050921/entry-1

Published by iFew

ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ชื่นชอบหลายเรื่องที่ไม่น่าจะไปกันได้ ทำงานไอที แต่ชอบท่องโลกกว้าง รักประวัติศาสตร์ แต่ก็สนใจเทคโนโลยี ชอบสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง และไปป้ายยาคนอื่นต่อ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Exit mobile version