ริมลำน้ำคอง เมืองคอง

in Travel

เมืองคอง ที่คิด(ไม่)ถึง

มีบางเมืองที่เราได้ยินชื่อมานาน แต่ไม่เคยมีโอกาสไปถึงเสียที
ไม่ใช่เพราะมันไกลเกินเดินทาง แต่เพราะต้อง “ตั้งใจ” มากกว่าที่จะ “อยากไป”

เมืองคอง… เมืองเล็กๆ กลางหุบเขาเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ที่ต้องข้ามดอยสูง ฝ่าทางโค้ง และถนนที่ทอดตัวอย่างดื้อรั้นระหว่างขุนเขา
การจะมาที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญหรือแผนเที่ยวเล่นเบาๆ
แต่เป็นการเลือกที่จงใจจะ “ชะลอชีวิต” แล้วปล่อยให้หัวใจได้หายใจซ้ำๆ อีกครั้ง

ที่นี่มีเพียงทางเข้าออกเส้นเดียว (ข้ามยอดดอยหลวงเชียงดาว)
ถนนที่คดเคี้ยวพาเรามา แล้วก็จะเป็นเส้นเดียวกันที่พาเรากลับไป
เมืองคองจึงเป็น “จุดจบของทาง” ในแผนที่ แต่กลับกลายเป็น “จุดเริ่มของใจ” ให้ใครหลายคน
(ยกเว้นใครอยากได้ความท้าทาย สามารถใช้เส้นทางวิบาก ลุยน้ำ ลุยทางดิน ผ่านห้วยน้ำดัง สันป่าเกี๊ยะ ก็ได้นะ)

ในความคิดก่อนมา ผมเคยจินตนาการถึงหมู่บ้านกลางทุ่งนา
คึกคักด้วยนักท่องเที่ยว เสียงมอเตอร์ไซค์ และร้านกาแฟเรียงรายราวกับแม่กำปองหรือคีรีวง
แต่เมื่อมาถึงจริงๆ เมืองคองกลับเงียบสงบเกินคาด
แม้ในวันที่มีงานวิ่งเทรล ผู้คนก็ยังอยู่กันด้วยความสงบ เสียงเครื่องยนต์แทบไม่มี
ริมน้ำคอง เยือกเย็น ผ่อนคลาย มีเพียงเสียงลมกับกระแสน้ำเบาๆ
เป็นบรรยากาศที่พอให้ได้พักกาย พักใจ

ความเงียบที่ฟังดูเศร้า แต่กลับเยียวยาในแบบที่เราไม่ทันรู้ตัว…

บางคนบอกว่า “ถ้าอกหัก ให้มาพักใจ ที่เมืองคอง”
ผมไม่รู้ว่าที่นี่จะฮีลหัวใจ หรือทำให้เราเหงามากกว่าเดิม
แต่รู้แค่ว่ามันทำให้เราหยุดฟังเสียงในใจตัวเองอีกครั้ง
เสียงที่เคยเงียบหายไปในเมืองใหญ่

ไม่ไกลจากหมู่บ้าน มีดอยหนึ่งชื่อ “เด่นทีวี”
ชื่อแปลกดี เหมือนถูกตั้งเล่นๆ แต่พอได้ยืนอยู่ตรงนั้นจึงเข้าใจว่า “หรือมันคู่ควรจะออกทีวีตามชื่อจริงๆ นะ”
ด้วยความสูงราวหนึ่งพันเมตร ทะเลหมอกคลุมหุบเขาเบื้องล่างราวผืนผ้าไหมที่พริ้วไหว
ยอดดอยหลวงเชียงดาวตระหง่านอยู่เบื้องหลัง
ชวนให้เพ่งมองตั้งแต่ฟ้าสาง จนพระอาทิตย์พ้นยอดดอย
ยิ่งมอง ยิ่งรู้สึกว่าธรรมชาติไม่เคยต้องพยายามจะงดงามเลย มันแค่ “เป็น”

คนที่หลงใหลความสวยงามของดอยหลวงเชียงดาวอย่างผม
และคิดว่าได้เห็นเขาจากหลายๆ มุมแล้ว แต่เมืองคองทำให้ผมเงียบ…
เงียบในแบบที่ไม่ต้องพูดคำว่า “สวย” ออกมา เพราะทุกอย่างพูดแทนตัวมันเองหมดแล้ว
และคงไม่เกินไป หากผมจะบอกว่าที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมวิวดอยหลวงเชียงดาวที่สวยที่สุดเลยก็ว่าได้

วันหนึ่ง หากชีวิตเริ่มวุ่นวายจนเราเผลอลืมว่า “เรากำลังไปไหน”
หรือต้องการทบทวนเรื่องราวบางอย่างในใจ
ผมคิดว่า ผมจะกลับมาที่เมืองคองอีกครั้ง
ไม่ใช่เพื่อหนีจากโลก แต่เพื่อกลับมาหาตัวเอง

บางที “คำถามที่ไม่มีคำตอบ” อาจไม่ต้องการให้ใครมาตอบเลยก็ได้
มันอาจค่อยๆ เฉลยออกมาเอง
ระหว่างที่เรานอนทอดกายบนเปลญวนริมน้ำคอง
และฟังเสียงลมพัดผ่านยอดรวงข้าว…

เหมือนใจเราได้พัก
และปล่อยให้ความเศร้ากลับกลายเป็นความสงบอย่างไม่รู้ตัว..

มาคุยกัน

Comment