เมื่อต้องวางแผนไปเที่ยวสองวัน ช่วง เสาร์ อาทิตย์ กับเพื่อนๆ ใครจะคิดว่าไปแล้วจบแค่นั้น ลองมาดูกันครับว่า หลังจากเที่ยวจบ 2 วัน เราอาจต้องสูญเสียเวลามากกว่าที่คิด
อันนี้ลองเขียนจากข้อสังเกตส่วนตัว ที่เวลาแบกเป้ไปเที่ยวป่า หรือต่างประเทศนะครับ ซึ่งอาจจะไมเ่กิดกับเที่ยวลักษณะช็อป ชิม ชิล ระยะใกล้ๆเท่าไรนัก ลองมาดูกัน
1. เหนื่อย และอ่อนล้า (เสียเวลา 1-2 วัน)
จริงๆข้อนี้ไม่ควรเกิดกับการท่องเที่ยวเลยเนอะ ทุกวันนี้ผมยังสงสัยกับเพื่อนหลายคนที่ไปเที่ยว แล้ววันรุ่งขึ้นต้องลางาน เพราะเหนื่อยจากการเที่ยว ทั้งๆที่การเที่ยวนั้นควรจะความสุข ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเที่ยวแบบสะดวกสบายก็ยิ่งไม่น่าจะเหนื่อย (ตรงกันข้าม ถ้าเทียบกับกลุ่มขาลุย เดินป่าปีนเขาที่ผมรู้จัก มักไม่ค่อยพบเช่นนั้น กลับถึงบ้าน ตีสอง ตีสาม ก็ยังไปทำงานตามปกติ)
2. เก็บ ซัก อบ รีด เมื่อเดินทางกลับมาถึง (เสียเวลา 1-3 วัน)
ยิ่งไปเที่ยวลุย และนานแค่ไหน ก็ยิ่งต้องใช้เวลากับส่วนนี้มากเท่านั้น ของบางอย่างต้องรีบรื้อมาตากแดด แช่น้ำยา กว่าจะได้ซักหรือทำความสะอาดต้องกินเวลา 1 วัน อย่างน้อย แล้วเอามาซัก เพื่อตากแดดอีกรอบ เผลอๆ ใช้เวลารวมกันทั้งหมดอาจ 2-3 วัน และจัดเข้าที่เข้าทางอีก 30-60 นาที
3. จัดแจงของฝาก (เสียเวลา 1-2 ชั่วโมง)
สำหรับคนเดินทางไปต่างประเทศ มักเจอปัญหาว่าต้องซื้อของฝาก พ่อ แม่ พี่ น้อง แฟน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนเรียน เพื่อนข้างห้อง ไหนจะเป็นเพื่อนที่ฝากซื้ออีก ต้องรื้อมาแยกถุง แกะป้ายสินค้า ถ้าเป็นคนสำคัญ เหตุการณ์สำคัญ ก็ต้องห่อของขวัญอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นของเสี่ยงต่อการบูดเน่า แตกหัก ยิ่งต้องประณีตเพิ่มขึ้น
4. ตกแต่งภาพ เขียนบล็อก และแชร์บนออนไลน์ (เสียเวลา 2-7 วัน)
ระหว่างเที่ยวเราก็มีโพสแชร์ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่จะมีพวกเก็บตกเล็กๆน้อยๆ หรือบางคนเก็บข้อมูลกลับมาแล้วค่อยๆ ทะยอยแชร์ (บางคนเรียกว่าปล่อยของ) หลังเที่ยวจบ เพื่อให้เพื่อนๆ งงเล่นว่า อินี่ทำการทำงานบ้างหรือเปล่า เที่ยวยาวตลอดอาทิตย์เลย ทั้งๆที่กลับมาตั้งแต่สามวันก่อน และยิ่งถ้าเล่นกล้องด้วย จะต้องมาคัดรูปถ่าย ตกแต่งภาพ แยกกลุ่มว่าอันนี้แชร์อันนี้ส่งส่วนตัว แยกกลุ่มว่าอันไหนโพสเว็บไหน โพสขายหรือโพสเล่น บลาๆๆๆ บางคนชื่นชอบการเขียน ก็จะใช้เวลาสำหรับเขียนเล่าเรื่องในบล็อกตัวเองหรือตาม Pantip อีกด้วย
5. ตามติดความคิดเห็นต่างๆ และข้อมูลของเพื่อนร่วมทริป (เสียเวลา 3-5 วัน)
หลังจากแชร์ข้อมูลไปต่างๆ นานา จะมีเพื่อนมาแสดงความเห็นตลอดแทบทุกโพส นั่นหละ จะเป็นช่วงเวลาที่เราเล่น Social Network มากกว่าปกติ (จากเดิมที่ว่าเล่นมากอยู่แล้ว ฮ่าๆ) ยิ่งไปกับกลุ่มเพื่อนหลายคน จะมีคนนั้นคนนี้ tag มาบ้าง รูปหล่อๆสยๆ บ้างจังหวะได้หน้าเหียกๆเบลอๆ ก็เฮฮาปาจิงโกะ บางคนเป็นเพื่อนใหม่ ก็ใช้เวลาย้อนไปดู Timeline เดิมๆของเพื่อนคนนั้นว่ามันเคยไปเที่ยวไหนมาบ้างวะ จะได้ถามหรือไปบ้าง
6. เม้าส์มอยกับเพื่อนๆ (เสียเวลา 2-3 วัน)
พอกลับมาเจอหน้าเพื่อนๆที่เห็นเราโพสแชร์ ก็จะถูกถามนั่นโน่นนี่เพิ่มเติม หรือบางทีเราก็จะเริ่มเล่าเอง พูดง่ายๆ เหมือนอารมณ์ค้าง ต้องกลับมาเล่าความรู้สึกการเดินทางให้ฟังว่าฉันไปผ่านอะไรมาบ้าง สนุกอย่างไร แย่อย่างไร เหมือนเป็นการสอบสัมภาษณ์ (ส่วนในข้อ 4 ที่แชร์ เหมือนเป็นการสอบข้อเขียนประมาณนั้น)
7. นั่งคิดถึงทริปถัดไป (เสียเวลาไม่จำกัด)
ข้อสุดท้าย หลังจากการเที่ยวเสร็จหรือกระบวนการข้อ 1-6 เริ่มเบาลง สำหรับคนที่มีความสุขในการเที่ยว เขาและเธอมักจะคิดถึงทริปถัดไปเสมอ ผ่านเว็บไซต์บ้าง การพูดคุยบ้าง หรือรูปที่เพื่อนคนอื่นเคยไปเที่ยวบ้าง เป็นแบบนี้ไปจนกว่าจะได้เริ่มออกเดินทางใหม่อีกครั้ง (และก็ย้อนกลับไปอ่านตั้งแต่ ข้อ 1)
—
เป็นอย่างไรครับ ใครเป็นแบบนี้บ้างยกมือขึ้น!
นั่งคิดทริปถัดไปนี่เรื่องจริงสุดๆ
5555
เห็นรีวิวทริปขุนวางแล้ว ผมนี่อยากจะขอหัวหน้าลาเลย
แต่เพิ่งหยุดยาวไป เดี๋ยวจะไม่งาม
รอซักปลายๆเดือน จะหาพวกไปให้ได้เลย 🙂
ขอบคุณที่ติดตามครับนาย
ถ้าสนใจผาสองฤดูลองดูนะ ตอนนี้เท่าที่ผมรู้มีคนจัด คือ
9-11ม.ค58 (https://www.facebook.com/events/596925450434283/)
10-11 ม.ค 58(https://www.facebook.com/events/1491457291072709/)
คนถามผมเยอะ แต่ผมก็ตอบไม่ถูก เพราะผมก็ไปกับพวกทัวร์