วันที่ 25 พค. 2548 (บ.27/05/2548 exteen.02/07/2548)
วันที่เป็นวันที่มีนาคสองรูปมาบวช (ท่านก๋า ท่านเก่ง) เราเลยต้องลงโบสถ์ จากนั้นก็กลับมารอฉันเพล แต่พอดีว่ามีหลวงพี่มานิมนต์ไปฉันข้างนอก เราก็เลยไป (ไปกับท่านชิว นอกนั้นก็มีพระที่แก่พรรษาไปอีก 7 รวมเป็น 9)
ขอบอกครับว่าวันนี้ก็เป็นสุดยอดประสบการณ์ตั้งแต่เกิดครับ เพราะที่ๆ ไปฉันนั้น คือ.. ซ่อง แถมไม่ได้ไปธรรมดาด้วยครับ แต่ไปสวดทำบุญให้กับผู้ตาย
โอ้โฮ ก้าวแรกที่เข้าไป เจอแต่เด็กสาว อายุน่าจะไม่เกิน 18 กันซะเยอะ บรรยากาศ อึมครึมๆ ตอนแรกก็ไม่รู้ว่ามาสวดอะไร ถามหลวงพี่ท่านหนึ่ง เขาก็ยิ้มๆแล้วบอกให้ไปถามอีกท่านหนึ่ง เราก็เลยไม่ได้อะไร แต่พอสวดจบ เห็นว่านานมากและทำน้ำมนต์ไปพรมตามบ้านด้วย กอปรกับต้องถือสายสิญด้วย เราเลยถามหลวงพี่อีกรอบว่า “เหมือนที่ผมคิดหรือไหม” ท่านเลยยิ้มๆ และพยักหน้า เราเลยถามอีกว่า “เรามาไล่ผีกันใช่ไหม” ท่านก็พยักหน้า โอ้โฮ มีความรู้สึกทันทีว่ามีอะไรบางอย่างครอบงำบ้านหลังนั้นไว้ ทุกอย่างดูวังเวงทันที
พอฉันเพลเสร็จก็กลับมาที่วัด หลวงตากับหลวงพี่ปอนก็กลับจากฉันเพลบนศาลาพอดี หลวงตาบ่นตลอดว่าฉันไม่ได้เลย เพราะเผ็ดบ้าง,แข็งบ้าง ฉันได้อย่างเดียวคือข้าวผัดไข่
ถึงเที่ยง เราก็เลยไปราชภัฏ เพื่อคุยกับอาขารย์อ้อย ขอเวลาให้ทีมงาน Young Quality Assuranceขึ้นไปปฐมนิเทศน์ กับขอเข้าเรียนตอนเป็นพระ แต่อาจารย์ท่าน ให้ไปเข้าประชุมกับพวกอาจารย์ ก็เลยได้เป็นขี้ปากไปโดยปริยาย(ปล.ที่เราต้องไปทำ YQA เพระเราเป้นประธานอยู่ ดังนั้น ถ้าไม่ดำเนินการก็จะไม่มีคนทำแทน+ ไปขอเข้าเรียน ก็เลยจำเป็นจะต้องไป)
อาจารย์บางท่านก็ถือฐิถิว่าเราเป้นลูกศิษย์เขา บวชไม่นานก็สึก เลยไม่ยกมือไหว้ บางท่านก็พูดเหมือนแซวๆ บางท่านก้เหน็บแนม เช่น พูดให้เราได้ยินแล้วชวนให้คิดว่า การมาของเราเป็นเกียรติอย่างสูง (เน้นเสียง เกียรติ หนักๆ) และก็บอกว่า “ท่านนี่รักกิจกรรมดีนะ” พูดเหมือนกับว่าเราบ้ากิจจกรมโดยไม่ดูสถานะตัวเองเลย
แต่เราก็ไม่ได้อะไร คิดแล้วก็ผ่านไป ได้แต่นั่งสำรวมฟังที่ประชุม เลยได้ความลับบางอย่างว่า ท่านเหล่านั้นพยายามจะหาประโยชน์จากกิจกรรมปฐมนิเทศน์ ซึ่งมันก็ไม่ผิดหรอก แต่รู้สึกว่าจะ อยากได้กันแบบเกินหน้าเกินตาไปหน่อย บางครั้งถ้าให้คำตอบไม่ได้ ท่านประธานก็จะบอว่า “ไว้คุยกับผมเป็นการส่วนตัวดีกว่า” (เอาเป็นว่ารู้กัน)
หลังจากนั้นก็ได้ไปพบกับผู้ช่วยฝ่ายวิชาการ เพื่อคุยว่า เราเป้นพระจะขอเรียนได้ไหม เพราะการสึกจะกินเวลาเรียนไปอีก 10 วัน ท่านเลยบอกว่า ตามกฏแล้วห้ามพระมาสมัครเรียนที่นี่ แต่พอดีเรามาบวชกลางครัน ก็เลยให้เราไปถามอาจารย์ผู้สอนแต่ละท่านว่าสะดวกไหม ถ้าสะดวกก็มาเรียน ถ้าไม่ก็ไม่ต้องมา และก็บอกเสริมอีกว่าถ้ามาเรียนเกิน 80% ก็ยังมีสิทธิสอบ เหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่า”หยุดแค่สองอาทิตย์ คุณไม่ต้องมาหรอก หยุดไปเถอะ” (ตอนแรกคิดว่าเราเป็นพระมานาน ก็เลยยกมือไหว้ แต่พอรู้ว่าเราเป้น นศ.ของเขา ตอนจะกลับ เข้าเลยไม่ไหว้เราเลย แถมก้มหน้าทำงานต่อไม่สนใจเราด้วย เหอๆ)
วันนี้มันทำให้รู้สึกเบื่อทางโลกอย่างไรก็ไม่รู้ รู้สึกว่าฟุ้งซ่านมาก รู้ทันทีว่าถ้าสึกออกไปแล้วจะต้องเจออะไรบ้าง แค่คิดก็วุ่นวายแล้ว กลับมาถึงวัดก็เลยเล่าให้หลวงตาฟัง และตกเย็นก็เล่าให้แม่ฟัง แม่เลยบอกว่าอย่าคิดมากและก็ถามวันสึกของเรา เราเลยบอกว่าเอาไว้ก่อน เขาก็เลยคุยเรื่องอื่นแล้วก็กลับบ้าน
—
source: http://ifew.exteen.com/20050702/entry