อดีตกาลอันไกลโพ้น

654242main_p1220b3k

“มีอยู่สองสิ่งที่ไม่สิ้นสุด นั่นคือจักรวาลและความโง่เขลาของมนุษย์ แต่ผมไม่แน่ใจเท่าใดนักว่าจักรวาลเป็นเช่นนั้น” อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวไว้เช่นนั้น

ภาพจากกล้อง Hubble ของ NASA ที่ทำให้เราได้เห็นบางส่วนของ Milky way galaxy หรือภาษาไทยเรียกว่าทางช้างเผือกอยู่ทางด้านขวามือ ส่วนกาแล็กซี้ด้านซ้ายชื่อว่าแอนโดรเมด้า (Andromeda galaxy) เป็นกาแล็กซี่ที่ใกล้เรามากที่สุด ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่  “3 ล้านปีแสง” เท่านั้นเอง..

ภาพที่เราเห็น ถ้าถูกถ่ายขึ้นเมื่อวานนี้ ก็กลายเป็นอดีตแอนโดรเมด้า เมื่อ 3 ล้านปีที่แล้ว เราสมมุติว่ามนุษย์ต่างดาวเฝ้ามองโลกอยู่ พวกเขาคงกำลังเพลิดเพลินดูไดโนเสาร์วิ่งไล่กันกระหนุงกระหนิงบนทุ่งหญ้าริมทะเลสาปท่ามกลางแสงแดดรำไร  เป็นไปได้ว่า แม้มนุษย์ต่างดาวจะเดินทางมาได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากมาเจอมนุษย์ขี้เหม็นในปัจจุบัน

ในการ์ตูนหลายๆเรื่องอย่างโดเรม่อน (บางตอน) หรือเออิชิ นักประดิษฐ์รุ่นจิ๋ว ยังสร้างจินตนาการที่ค่อนข้างสนุกและน่าคิดว่า เมื่อย้อนกลับไปอดีตได้แล้ว ห้ามไปแตะต้อง สื่อสาร หรือทำการใดๆ กับทุกสิ่งในอดีต เพราะบางทีสิ่งเหล่านั้นอาจเกี่ยวข้องกับทุกชีวิตหรือแม้แต่ชีวิตเราในอนาคต จนอาจทำให้ไม่มีเราอย่างปัจจุบัน เหมือนการเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ที่เราคาดไม่ถึง

บางทีธรรมชาติก็บอกเราว่าอดีตแม้จะมองเห็นหรือนึกได้ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ ต่อให้ในอนาคตจะมีเทคโนโลยีใดๆ ทำให้เดินทางย้อนอดีตกลับไปได้ แต่มั่นใจหรือว่าเราเองจะกล้าเปลี่ยนแปลงอดีตเหล่านั้น โดยไม่คิดถึงสิ่งที่จะกระทบกับปัจจุบัน

เสน่ห์ของอดีตมีไว้ให้คิดถึง.. คงเหมือนเสน่ห์ของการส่งจดหมาย ที่มีคุณค่าต่อคนรับเสมอ แม้มีช่องทางอื่นที่ดีกว่า

อดีตเปลี่ยนแปลงได้

“คุณรู้หรือเปล่า.. อดีตเปลี่ยนแปลงได้”

เป็นคำถามที่ อาจารย์สอนไทเก๊ก ท่านหนึ่ง ถามผม ระหว่างที่เรากำลังจะกลับบ้าน
ผมฟังท่านพูดเสร็จ ก็ได้แต่พยักหน้า และพูดว่า “ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี”

ท่านก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ยกตัวอย่างต่อไปให้ผมฟังง่ายๆ ว่า

ถ้าคุณอยู่ในที่มืดแล้ว จู่ๆ เดินเหยียบตัวอะไรยาวๆ นุ่มๆ เป็นเส้น แล้วคุณตกใจสุดขีดว่าเป็นงู
แต่พอมีแสงไฟมาส่องปุ๊บ คุณเห็นว่านั่นเป็นแค่ เชือกเส้นหนึ่ง เท่านั้น คุณรู้สึกโล่งอกทันที

แค่นี้อดีตคุณก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว

เพราะอดีตของคุณ มันคือ งู ที่ทำให้คุณตกใจ แต่ตอนนี้มันกลายเป็น เชือก ที่ทำให้คุณสบายใจ

และท่านก็บอกว่า สิ่งที่ทำให้คนเราเป็นทุกข์ ก็คือความคิดของเรานี่เอง
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอดีตก็ตรงกับแนวคิดของธรรมะ ที่ผมเคยรู้นั่นเอง เลยทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น

ท่านเล่าว่า มีคนหนึ่งเคยเกลียดพ่อมากๆ เพราะพ่อไม่เคยทำดีกับแม่เลย
จนวันหนึ่งพ่อของท่านเสียไปจึงหวนกลับมารำลึกได้ว่า สิ่งที่ท่านเคยคิด มันไม่ถูกต้อง
ตั้งแต่นั้นมา จากอดีตที่เคยเห็นพ่อว่าเป็นคนบ้า ก็เห็นว่าเป็นพ่อ ที่เป็นพ่อจริงๆ
และคนที่คิดก็เป็นมะเร็งอยู่แล้วเนื่องจากคิดมาก แต่พอเปลี่ยนอดีต มะเร็งท่านก็ลดลง
เพราะมีจิตใจที่ดีขึ้น

มาถึงตรงนี้ ทำให้เรารู้ว่า การเปลี่ยนอดีต นั้น ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แต่อยู่ที่ใครทำใจได้ ใครยอมรับได้ ใครปล่อยวางได้
ที่จะเปลี่ยนความคิด เพื่อให้อดีตเปลี่ยนคุณในปัจจุบันและอนาคต

ผมเชื่อว่า เรื่องดีๆ คุณก็คงอยากให้เป็นอดีตที่แสนงดงาม
แต่เรื่องไม่ดี เก็บไว้ ก็เหมือนเก็บขี้…. หรือคุณจะนั่งดมมันไปตลอดชีวิต ก็เรื่องของคุณ

source: wuttanan.com : มูลนิธิออนไลน์วุทธานันท์
posted on 09 Dec 2007 21:46 by ifew