อาม่า
Stand by Me
ปีใหม่ที่ผ่านมา หลานมันชวนไปดูโดเรม่อน “Stand by Me Doraemon”
ไอ้เราอยากดูพอดี เลยถือโอกาสเลี้ยงปลอบใจที่มันจับฉลากไม่ได้รางวัลใหญ่
ด้วยเหตุผลที่ว่า “มันถือเคล็ด” ถ้ามันห่อของขวัญให้ใคร มันต้องได้ของคนนั้น
แล้วมันก็เป็นจริงซะด้วย มันได้ของผม เพราะมันห่อให้ผม!
พลาดแท็บเลต แต่ได้ช็อกโกแลต เป็นใคร ใครก็เจ็บใจ..
โดเรม่อนภาค “Stand by Me Doraemon” แปลเป็นไทยมาว่า “โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป”
นับเป็นภาคแรกที่ทำเป็นสามมิติ เล่าถึงการพบเจอกันวันแรกของโดเรม่อนและโนบิตะ ไปจนถึงวันลาจากกัน
ผมเพิ่งมาหาข้อมูลตอนหลังว่า เขาใช้ผู้กำกับคนเดียวกับหนังญี่ปุ่นเรื่อง Always ทั้งสามภาค
ก็ไม่แปลกใจที่จะได้ยินเสียงคนดูหัวเราะ เงียบ น้ำตาคลอ และเดินออกจากโรงด้วยความรู้สึกดีๆ
ไอ้หลานผม มันบอกว่ามันง่วง จะหลับหลายรอบ
แต่ผม ก็ได้แต่ซึ้ง กลั้นน้ำตาไว้ เพราะอายมัน
เหมือนตัวเองกลับไปสู่โลกวัยเด็กอีกครั้ง
ยิ้มกับหน้าตาตัวละครบ้าๆบอๆ
และหัวเราะกับมุขบริสุทธิ์แบบไม่หยาบคาย
ไม่ได้มีอารมณ์แบบนี้มานานแล้ว..
เรื่องยังคงเป็นแบบเดิมเหมือนที่เคยอ่านในหนังสือการ์ตูน
แต่การรับรู้ และตีความด้วยประสบการณ์ใหม่ ตามอายุขัยที่มากขึ้น
ผมกลับมองว่าการ์ตูนเรื่องนี้ลึกซึ้งกว่าที่ผมเคยอ่านมาเยอะเลย..
…
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปีใหม่ ก่อนที่ผมจะเดินทางกลับกรุงเทพ
ผมสาละวนอยู่กับกระเป๋า ของฝาก ต้นไม้ แล้วก็หมา
อาม่าทักผมขึ้นมาว่า ให้หาข้าวกินและใส่เสื้อแขนยาวไปด้วย เพราะมันหนาว
ซึ่งวันนี้ยังอยู่ในระดับที่ผมทนได้ ผมเลยไม่ได้ใส่ แล้วรีบไปกินข้าว
จวนจะถึงเวลาเดินทาง แม่เดินมารับไหว้ และกอดผม
อาม่านั่งมองแบบยิ้มๆ รอให้ผมไปไหว้ลาต่อเป็นคนสุดท้าย
ผมไหว้อาม่าบนมือของเขา พร้อมบอกสวัสดีปีใหม่
อวยพรให้เขาหายป่วยไวๆ และมีสุขภาพแข็งแรง
ครั้งนี้ ผมไม่ได้ลุกเดินจากไป
แต่โอบมือไปกอดเขา
เขากอดผมกลับ..
ผมจำไม่ได้ว่าอาม่าพูดอะไร
แต่ประมาณว่าอวยพรให้เดินทางปลอดภัย
แล้วแกก็ร้องไห้..
เราไม่ได้กอดกันมานานมากแล้ว ตั้งแต่ผมเริ่มทำงาน
เราได้แต่นั่งคุยข้างๆกัน บนโต๊ะกินข้าว
จูงมือเดินบ้างเมื่อเขาขอความช่วยเหลือ
ผมไม่รู้ว่าทำไมเราถึงไม่ได้กอดกันมานานขนาดนี้
แต่วันนี้ผมอยากกอด..
ถ้าผมเริ่มกอดแกอีกครั้ง
ผมไม่รู้ว่า นับจากวันนี้ เราจะมีโอกาสกอดกันได้อีกนานแค่ไหน..
ชักเริ่มรู้ตัวและไม่อยากให้โอกาสเหล่านั้นผ่านไปเลย..
เหมือนในการ์ตูน ที่โนบิตะในโลกอนาคตบอกกับโนบิตะวัยเด็กว่า
“ใช้เวลาอยู่กับโดเรม่อนให้คุ้มค่านะ”
เพราะเมื่อถึงวันต้องจากลา เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว
คงมีแค่เสียงก้องในความทรงจำของเราเท่านั้น
“นายต้องอยู่ให้ได้ นายต้องสู้นะโนบิตะ”
—
4 Jan 201 – กรุงเทพ