Day 3 (Part 2) – Ghorepani -> Banthani
หลังจากเดินลงจาก Poon Hill พวกเราต้องรีบเก็บของและเดินต่อทันที เพราะกลัวจะสายเกินไป
ขอย้อนกลับไปดูสูตรข้าวต้มที่บอกพ่อครัวเนปาลไว้ ปรากฎว่า แกก็เอาข้าวใส่น้ำร้อนให้จริงๆ แต่ก็ยังเป็นข้าวเบร์เลย์แบบเดิม คืออาจผิดที่เราไม่ได้บอกว่าให้ใช้ข้าวสวย ฮ่าๆๆ รสชาติก็เลยยังหวานนิดๆ เพราะตัวข้าว และหนืดหน่อยๆ
เดินออกจาก Ghorepani แดดแรงพอสมควร และอบอ้าว เราเดินขึ้นไปถึงภูเขาอีกลูก อยู่ตรงข้ามกับ Poon Hill ด้านบนเป็นเขาหัวโล้น มองเห็นได้ 360องศา คล้ายกับเขาช้างเผือกในประเทศไทยเลยครับ วิวสวยมาก กุหลาบบานสะพรั่ง ลมแรง และหมอกหนา เล่นทำเราหนาวสะท้านไปทั้งทีม
ยอมรับเลยว่าตอนนี้เริ่มเบื่อกุหลาบพันปี เริ่มไม่หวือหวาแล้วหละ หากใครอยากเจอเยอะๆ เจอแบบกราดเกลื่อน เจอไม่บันยะบันยัง เชิญมาเที่ยว ABC ในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนได้เลยครับ เป็นช่วงที่บานเต็มที่ไปทั่วทั้งภูเขา ตั้งแต่เริ่มเดินก้าวแรกไปจนเข้าเขตหิมะ
ใกล้เที่ยง ฝนตกประปราย และที่ตื่นเต้นสำหรับผมคือ ได้เจอลูกเห็บด้วย เป็นเม็ดเล็กๆ ที่เมืองไทยจริงๆก็มีครับ เพียงแต่เกิดมาไม่เคยเจอ ได้แต่ดูข่าวจากโทรทัศน์ว่าที่นั่นที่นี่มีลูกเห็บตก วันนี้ได้เห็นของจริงแล้วหละ แปลกดี ชื่นชอบ เหมือนมีคนยิงปืนอัดลมใส่ตลอดเวลา (แอบซาดิส)
และที่สังเกตได้อีกอย่างหนึ่งคือ อากาศที่นั่นแปรปรวนช่วงเที่ยงถึงเย็น และแน่นอนครับ ผมก็ได้เจอตลอดวันเลยทีเดียว แต่พอมันตกหนักๆ นานๆ เต็มพื้น ก็สวยมากๆ ขาวโพลนเหมือนหิมะ แปลกตาเราสุดๆ
ช่วงบ่ายที่ลูกเห็บและฝนตกสลับกันหนักๆ เราวัดอุณหภูมิได้ที่ 4-5 องศา! (แอบคิดถึงและอยากอวดคนอยู่ประเทศไทยเลย ให้ตายสิ)
จริงๆ แล้ว ตามแผนวันนี้เราต้องไปนอนที่หมู่บ้าน Tadapani แต่ด้วยความที่การจองเกสเฮ้าส์จะจองเป็นวันต่อวัน แล้วที่นั่นเกสเฮ้าส์ก็เต็มพอดี จึงทำให้เราเดินสั้นขึ้น และนอนที่หมู่บ้านเล็กๆในซอกเขา ชื่อ Banthani
นับเป็นเกสเฮ้าส์ที่พวกเราคุยกันได้ตลอดทริป คืนนั้น 0 องศา ในห้องแคบๆ เตียงและผ้าห่มชื้นๆ เราเลยไปรวมตัวกันหน้าเตาผิงของห้องอาหาร ไม่ยอมไปไหนกันเลย และก็ได้ใช้ถุงนอนเก๊ๆ -10c ที่ซื้อจาก Tamel ครั้งแรก มันอเมซิ่งมากครับคุณเอ๋ย มันเอาอยู่เว้ยๆ อุ่นเลย (แต่ผมใส่ลองจอน เสื้อคอกลม และเสื้อขนเป็ดนอนด้วย)
คืนนั้นพวกเราเตรียมทำใจสำหรับวันรุ่งขึ้น เพราะต้องเดินหนักกว่าเดิมอีก 2 ชั่งโมง เพื่อไป Tadapani และก็ดันเป็นวันที่ต้องเดินไกล และเดินลงเยอะด้วย มาถึงขั้นนี้แล้ว จะไม่พร้อม ก็ต้องพร้อมแล้วหละครับ! นี่แหละรสชาติของชีวิต
Day 4 – Banthani -> Tadapani (2,630 m) -> Chomrong (2,170 m)
วันนี้เราตื่นกันตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อเก็บของและทานข้าวเช้า เนื่องจากเราต้องเดินไกลและนานกว่าเดิม
เมื่อทุกอย่างพร้อม เราออกเดินทางกันตั้งแต่ 7 โมงเช้าเพื่อไปให้ถึงเมือง Tadapani ไม่เกิน 9 โมง ระหว่างทางเป็นการเลาะริมหน้าผา มีขึ้นมีลงอยู่สลับกัน วิวอาจจะธรรมดากว่าทางที่เคยเดินผ่านมา แต่เมื่อถึงเมือง Tadapani มันเป็นเมืองอยู่บนยอดเขา สามารถมองไปเห็นยอดเขา Machhapuchchhre ได้อย่างชัดเจนและสวยงาม ผมแอบเสียดาย ที่ไม่ได้นอนที่นี่ น่าจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและลง คงสวยน่าดู
เราแวะล้างหน้า เข้าห้องน้ำ และยืนถ่ายรูปกันอยู่ครู่หนึ่ง เราเริ่มไต่ลงจาก Tadapani แล้วก็ไต่ขึ้นไปอีกยอดหนึ่ง ตลอดสองข้างทาง เต็มไปด้วยทุ่งนาขั้นบันไดแคบๆ แต่ถี่หลายชั้นตั้งแต่ยอดเขาลงไปจรดลำธารด้านล่าง และด้วยความที่เป็นร่องเขา ทำให้เราเห็นวิวได้กว้างไกลแบบพาโนลาม่า สวยอลังการไม่แพ้ซาปาที่เวียดนามเลยทีเดียว
กว่าจะถึงเมือง Chomrong ก็ขึ้นลง ขึ้นลง หลายภูเขา ไกลและชัน บางช่วงก็เป็นบันได ผมคิดว่าค่อนข้างหนักนะ ถึงจะไม่ปวดขา ก็อาจปวดเข่า หรืออาจทำให้ล้าได้เลย ควรเดินระวังๆและรักษาตัวเองไว้
Chomrong เป็นเมืองใหญ่มาก น่าจะใหญ่กว่าที่เคยผ่านๆมา เป็นศูนย์กลางทางแยกเชื่อมได้หลายเมือง ทั้ง Sinuwa, Ghandruk, Jinhu ซึ่งเป็นเมืองทางผ่านสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะมาเที่ยวเส้นทางไหนก็ตาม ที่นี่มีบาร์ มีร้านกาแฟ มีร้านขายของที่ระลึก มีร้านขายของส่ง และมีเกสเฮ้าส์เยอะมาก
ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ เมื่อมองจากเมืองนี้ จะเห็นซอกเขาสองฝั่ง, พวกเรามาถึงช่วงเย็น พอมองลึกเข้าไปในซอกเขานั้น เป็นความมืดทะมึน มองไม่เห็นปลายทาง แต่ด้านบนเห็นยอดภูเขาหิมะโผล่มารำไรๆ สวยแปลกตา อดคิดไม่ได้ว่าคณะเรากำลังไป Mordor ใน The Lord of The Rings หรือเปล่า
เมื่อเรามาถึงเมืองนี้ จะเริ่มพบป้ายห้ามกินเนื้อหมู เนื้อควาย เนื้อไก่ เนื่องจากชาวเมืองแถวนี้เขาเชื่อว่าเป็นสถานที่สถติของเทพเจ้าของเขา ดังนั้น ตั้งแต่เมือง Sinuwa (ถัดจาก Chomrong) เมนูอาหารที่ครัวเนปาลทำก็จะเจอผัก ปลา แป้ง ข้าว (แต่หากหิ้วเนื้อต้องห้ามไปแล้วเสียดาย หรืออดไม่ได้ก็แอบๆกินอย่าประเจิดประเจ้อละกันครับ)
วันนี้ได้อาบน้ำอุ่นแบบเต็มที่ เป็นเครื่องแบบแก๊สหุงต้ม อาบไปก็หิวมาม่าไปๆ (ผมว่ากลิ่นแก๊สเหมือนมาม่าหมูสับ) ทั้งสบายตัว ทั้งหิว ก็เลยลงไปต้มมาม่ากินรองท้องก่อนจะถึงมื้อเย็น มื้อนี้เป็นข้าวกับผัดผักและไข่ดาว ซึ่งเป็นเมนูที่พวกเรากินกัน 2-3 ครั้ง แล้ว และเริ่มจะไม่เจริญอาหาร
ผมกับเพื่อนเดินออกไปช็อปปิ้งหน้าโรงแรม เราเจอเสื้อ ABC ตัวหนึ่ง มันควรค่าแก่การซื้อเก็บมากครับ เจ๊คนที่ขายบอกว่า 600รูปี พวกเรายืนต่อกันอยู่นาน เจ๊เลยลดราคาให้ 400 ซึ่งถ้าเราไปอีกร้านหนึ่งบนเขา จะได้ราคาแค่ 350 แต่เอาเถอะครับ แลกกับค่าเดิน 50รูปี (17บาท) ยอมๆ, คนอื่นจ่ายไป 400 ถ้วนๆ แต่ผมจ่ายไป 500 เจ๊แกทอนกลับแค่ 90 ครับ ผมเลยทวงแก แต่แกขอผมอีก 10รูปี แล้วแกก้มไปหยิบข้อมือเชือกถักมาให้ผมแทน แกบอกว่านั่งหลังขดหลังแข็งถักเองกับมือเลยเชียวนะ เป็นรูปดวงตาพระพุทธเจ้าห้าพระองค์
หลังจากผมใส่มัน ทุกคนที่เห็นก็ชมว่าสวยครับ และวันที่เนปาลมีแผ่นดินไหว เชือกถักเส้นนี้มันทำให้ผมคิดถึงเจ๊ และคนเนปาล ผมรู้สึกว่ามันเป็น 10รูปี ที่มีค่ามีความทรงจำสำหรับผมมาก
ช่วงอาหารเย็น พวกเราคุยกันถึงแผนการวันถัดไป เริ่มวิตกกันเรื่องโรคแพ้ความสูง (AMS) เพราะวันรุ่งขึ้นจะต้องเดินทางไกล และไต่ระดับไปนอนระดับที่ 3,800เมตร หากเกิดอาการขึ้นมา อาจไปไม่ถึงยอดได้ จึงเริ่มแชร์ความรู้กันเองจากที่อ่านๆกันมา และแจกยา กลุ่มเราค่อนข้างโชคดีที่มีหมอไปด้วยหลายคน ยาเพียบเลย และคนทั่วไปหลายๆคนก็หาข้อมูลมาดี จึงช่วยได้เยอะจริงๆครับ ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยเลย
ตกกลางคืน มีการแสดงของชาวบ้านในระแวกนั้น เป็นการร้องเพลงและเต้นรำแบบท้องถิ่นของชาวเนปาลี เพลงติดหูมากครับ ทำนองคล้ายๆกันหมด แต่เหมือนจะเปลี่ยนเนื้อร้อง ท่าเต้นเขาก็จะเน้นหมุนตัวไปมา ผู้ชายก็กระโดดโลดเต้น จริงๆแล้วเหมือนจะเป็นงานระหว่างคนพื้นเมืองและคณะลูกหาบของเรามากกว่า พวกเขาสนุกกันมาก จะมีคนไทยอยู่ไม่กี่คนที่ถูกชาวเนปาลีเชิญออกไปเต้นร่วมกับเขา
ตัวแทนชาติไทย เธอๆ เขาๆ ก็เต็มที่เลยครับ ออกไปรำไทย เซิ้ง ท่าเต้นในผับ แล้วก็ทำท่า Squart อวดชาวเนปาลีให้งงและอึ้งกันไปเลย ว่าชาติไทยได้พัฒนาลีลาการเต้นแบบแอโรบิกแด๊นส์ได้เองแล้ว
ต้องขอเล่าย้อนว่า ทริปนี้ผมตั้งใจมาเที่ยวแบบหายเงียบไปเลย ไม่อัพเดทใดๆ แค่โทรศัพท์ผ่าน Skype เล่าสารทุกข์สุขดิบกับแม่และอาม่าวันละครั้งก็พอ ซึ่งเกสเฮ้าส์ที่เราพัก(และน่าจะทุกที่) จะมีอินเทอร์เน็ตให้บริการครับ จ่ายเหมาทั้งวันทั้งคืน 100-200รูปี ซึ่งเกสเฮ้าส์ที่แรกผมได้ใช้ฟรี ที่ที่สองก็ยืมเพื่อนใช้ เพราะความเร็วมันช้าถึงช้ามาก เราใช้แป๊บเดียว ไม่อยากเสียเงิน แต่ๆๆ.. วันนี้ผมได้ลองซื้อเล่นเป็นครั้งแรก เนื่องจากน้องคนหนึ่งเอา Facebook มาให้ผมดู..
“พี่ๆ แม่พี่เข้ามาไลค์ มาเม้นของหนูตลอดทางเลย” น้องมันบอก พร้อมยื่นมือถือให้ผมดู
เป็นโพสที่น้องมันเช็คอิน อัพเดทสเตตัส แต่ใส่ชื่อผมไปด้วย เลยทำให้แม่ผมเห็นตลอดทาง
“เอิ่ม ตายหละ แม่พี่รู้ว่ามีอินเทอร์เน็ตนี่หว่า เดี๋ยวพี่ไปซื้อก่อนนะ กลัวแม่น้อยใจ หาว่ามีเน็ตฯ แต่โทรไปหาแค่วันละครั้ง ไม่โพสอัพเดทอะไรให้ดูเลย” ว่าแล้วผมก็รีบเดินไปจ่ายเงิน เขาก็เอามือถือไปกรอกรหัส Wifi ให้.. (เขากลัวเอารหัสไปบอกต่อ เลยจะหยิบมือถือเราไปกรอกเอง) โพสรูปหน้าตัวเองไปหนึ่งรูป.. แล้วก็โทร Skypse ไปคุย..
กว่าจะโพสรูปแรกได้ ผมพยายามอยู่หลายครั้ง ขึ้น Fail ตลอด และแต่ละครั้งก็รอเกือบ 10 นาที ใครคิดจะซื้อเน็ตฯเล่นก็ลองคิดดีๆนะครับ
หลังจากโผล่ตัวครั้งแรกในโลกโซเชี่ยลแล้ว ญาติโกโหติกา เพื่อนฝูงต่างมากระหน่ำไลค์ ถามสารทุกข์สุขดิบกันเต็มที่ คืนนั้นผมนั่งเล่นเน็ตจนถึงห้าทุ่มแน่ะ กลัวไม่คุ้มเงินที่จ่าย.. (ยังงกได้อีก)
ที่นอนของเราคืนนี้ ห้องกว้างขวางและสะอาดดี แต่ตั้งแต่เมือง Chomrong เป็นต้นไป เขาจะให้เราแต่เตียงและฟูก ไม่มีผ้าห่มเลย ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ดังนั้น ถุงนอนอุ่นๆเป็นสิ่งจำเป็นมาก ควรเตรียมไว้ให้ดีเลยครับ หากจะไปเที่ยว
เพิ่มเติม
– เพิ่งได้ลองกินพวก snicker ครั้งแรกตอนหมดแรง รู้สึกเห็นผลว่าใช้เพิ่มแรงได้จริงๆ นะ จากเมื่อก่อนไม่เคยเชื่อ (เพราะมันไม่อิ่มไง จะเอาแรงจากไหนวะ)
– นอนไม่ค่อยหลับตั้งแต่มาเดินที่นี่ เหมือนหลับเต็มอิ่มแล้วตื่นเร็ว คืนหนึ่งตื่นสองสามครั้ง ไม่รู้สาเหตุ ใครเป็นแบบผมหรือทราบสาเหตุบ้างครับ?
– ครัวเนปาลทำอาหารช้ามาก เป็นชั่วโมง และเป็นทุกที่ด้วย ดังนั้น ควรคิดเมนูอาหารล่วงหน้าและให้ไกด์หรือลูกหาบวิ่งมาสั่งรอก่อนที่เราจะเดินถึงง
ซีรี่ – 8 วันเดินเท้า ไปเข้าตู้เย็น ในนาม ABC
ตอนที่ 1-2 เริ่มต้นและเตรียมตัว
ตอนที่ 3 มุ่งสู่เนปาล และอันนาปุรณะ
ตอนที่ 4 พบรักที่ Poon Hill
ตอนที่ 5 รสชาติชีวิต
ตอนที่ 6 ในวงล้อมแห่งหิมะ
ตอนที่ 7 จากลาพร้อมบทสรุป
Webmentions
[…] ที่มา – MyIfew : ตอนที่ 5 รสชาติชีวิต […]
[…] และอันนาปุรณะ ตอนที่ 4 พบรักที่ Poon Hill ตอนที่ 5 รสชาติชีวิต ตอนที่ 6 ในวงล้อมแห่งหิมะ ตอนที่ 7 […]
[…] และอันนาปุรณะ ตอนที่ 4 พบรักที่ Poon Hill ตอนที่ 5 รสชาติชีวิต ตอนที่ 6 ในวงล้อมแห่งหิมะ ตอนที่ 7 […]
[…] และอันนาปุรณะ ตอนที่ 4 พบรักที่ Poon Hill ตอนที่ 5 รสชาติชีวิต ตอนที่ 6 ในวงล้อมแห่งหิมะ ตอนที่ 7 […]
[…] และอันนาปุรณะ ตอนที่ 4 พบรักที่ Poon Hill ตอนที่ 5 รสชาติชีวิต ตอนที่ 6 ในวงล้อมแห่งหิมะ ตอนที่ 7 […]
[…] และอันนาปุรณะ ตอนที่ 4 พบรักที่ Poon Hill ตอนที่ 5 รสชาติชีวิต ตอนที่ 6 ในวงล้อมแห่งหิมะ ตอนที่ 7 […]