Catch ball by Hoshin Kanri

catchball

เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมได้ยินคำว่า Catch ball บ่อยๆ ก็ เออ ออ เก็บความสงสัยมาค้นดูว่าคืออะไร ซึ่งจริงๆมันคือหนึ่งในแนวคิดของการบริหารนโยบายแบบโฮชินคังริ (Hoshin Kanri) ที่หมายถึงการสื่อสาร(ส่งต่อ)นโยบายจากผู้บริหารลงไปสู่ระดับคนทำงานให้ทั่วถึงกัน

แต่ความหมายที่ผมได้รับรู้และดูจากการกระทำของหลายๆคน คือ คำว่า Catch ball หมายถึงการเอางานตนเองแต่โยนงานไปให้คนอื่นทำ.. (พูดดูดีหน่อยก็คือ การกระจายงานให้คนอื่นทำ) แล้วตัวเองก็ไปทำงานอื่นต่อ ถึงจุดหนึ่งก็โยนต่ออีก เพื่อไปรับงานอื่นต่อ.. โดยทั้งหมดนี้ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าด้วย

มันก็แปลกดี ว่าทำไมตีความเอามาใช้แบบนั้น..

ว่าแล้วก็ขอเสริมหน่อย ถ้าคนใช้ได้อ่านเรื่องผลของการ Catch ball ก็ต้องรับสภาพด้วยว่า อาจเกิดเหตุการณ์ 2 กรณี

  1. 1. คนรับไม่รับ ปล่อยบอลทิ้งไป
  2. 2.คนรับไม่เต็มใจรับ พอรับแล้วหมกไว้กับตัว

(ยังไม่ได้บอกด้วยนะว่าไอ้คนรับมีบอลคามืออยู่หรือปล่า)

ดังนั้นไม่ว่าจะเอาไปใช้แบบถูกหรือผิด สักแต่ว่าใช้ศัพท์เก๋ไก๋ให้คนอื่นคิดว่าเท่ และดู งง ไปวันๆ โปรดเข้าใจผลของมันไว้ด้วยว่าสามารถเกิดผลขึ้นได้ทั้งสองแบบ

ลองไปหาอื่นต่อเอาเอง

  • http://www.systems2win.com/c/catchball.htm
  • http://www.ecosia.org/url?url=http%3A%2F%2Fcourse.eau.ac.th%2Fcourse%2FDownload%2F0154706%2F%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B8%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2599.doc&v=2&i=0&q=%E0%B9%82%E0%B8%AE%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%20%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%20catch%20ball&p=0&tr=7730&at=0&ar=0&ab=0&mr=0&ir=0&kgr=0&nr=0&iar=0&sr=0

13 ข้อ วิธีประหยัดเงิน ในปี 2013 (จริงๆ มันก็ทำได้ทุกๆปีนั่นแหละ)

ไปเห็นมาครับ ชอบๆ เข้าใจง่ายดี และเป็นเรื่องที่ไม่ต้องฝืนใจทำมากนัก

  1. Pay yourself First – ได้เงินมาแล้วก็จ่ายสิ่งที่จำเป็น หรือหนี้ที่จำเป็นต้องจ่ายในทุกเดือนก่อน  เช่น ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าซักผ้า หนี้บัตรเครดิต
  2. Set Financial Goals – ตั้งเป้า รายรับ รายจ่าย ทั้งระยะสั้นและยาว เช่น ค่ากินแต่ละวันไม่ควรเกินเท่าไร ผ่อนบ้านควรจะหมดในกี่ปี
  3. Save your spare change – กลับไปเป็นเด็กหยอดกระปุกเก็บเงินไว้บ้าง เต็มแล้วก็ฝากบัญชี เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
  4. Leave the credit card at home – พยายามหยุดหรือลดการใช้บัตรเครดิตโดยไม่จำเป็น
  5. Turn off the lights when you leave the house – ปิดไฟทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน (หรือที่ไหนๆก็ตาม เช่น ออฟฟิต ห้องน้ำสาธารณะ บลาๆๆ)
  6. Double your recipe so you’ll have leftovers – หัดทำอาหารสูตรใหม่ๆจากวัตถุดิบที่ยังมี(หรือยังเหลือ) ภายในบ้าน
  7. Pack your lunch – พกอาหารกลางวันไปกินข้างนอกบ้าน! บางทีกินบนออฟฟิต เมื่ออิ่มแล้ว ขี้เกียจเดินไปที่อื่น ก็ประหยัดค่าซื้อขนมได้ด้วยนะ
  8. Skip the bottled water – พยายามลดหรือเลิกซื้อน้ำขวดดื่ม แล้วหันไปใช้ขวดแก้วหรือขวดพลาสติก reuse กรอกน้ำดื่มแทน (อาจกรอกมาจากบ้าน หรือในออฟฟิต ถ้าคิดว่าสะอาดพอ)
  9. Cancel your cable package – ยกเลิกเคเบิ้ลทีวีไปเลย ถ้าคิดว่าดูไม่คุ้ม หรือไม่กี่ครั้ง
  10. Ditch the delivery – ใช้บริการอาหาร Delivery บ้าง เพราะการทำอาหารในครัว อาจมีรายจ่ายที่สูงกว่า ทั้งวัตถุดิบ ค่าน้ำ ค่าไฟ ในการแช่ อบ ทอด ต่างๆ
  11. Clip coupons – มีคูปองอะไรก็หยิบๆออกมาใช้บ้าง ไม่ใช่รับแล้วเก็บไว้เฉยๆ บางทีก็ประหยัดเงินได้เยอะอยู่เหมือนกันนะ
  12. Evaluate your cell phone plan – สังเกตุการใช้งานมือถือตัวเอง แล้วสมัคร package เท่าที่จำเป็น
  13. Car pool to work – ไปทำงาน หรือไปไหนมาไหน ถ้าเป็นไปได้ ก็ไปด้วยกัน คันเดียวกัน กรณีนี้ผมมองว่า รถสาธารณะก็รวมไปด้วยนะครับ

pyramid-healthcare-pa-infographic-01
ที่มา http://www.advantageccs.org/money-saving-tips-2013-infographic.html

การทำงานแบบฮาโมนี และ ปรากฏการณ์สร้างมูลค่าแบบอิเกีย

 จากที่เคยอ่านนังสือการสร้างคนให้ยิ่งใหญ่สไตล์ธนินท์ ที่มีท่อนหนึ่งคุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ CEO CPALL ท่านเคยให้สัมภาษณ์ถึงวิธีการทำงานเป็นทีมแบบ ผสมส่วนเหมือน ผสานส่วนต่าง ที่เรียกว่า ฮาโมนี (Harmony)

Continue reading “การทำงานแบบฮาโมนี และ ปรากฏการณ์สร้างมูลค่าแบบอิเกีย” »

เมื่อ ททท. ออกมาประกาศว่า ประเทศยินดีต้อนรับชาวเกย์-เลสเบี้ยน ทั่วโลก

ถือเป็นการทำการตลาดแบบนิช มาร์เก็ต (Niche Market) มากๆ เจาะกลุ่มตรงเป้าหมายเลยว่าเป็น เกย์-เลสเบียน ชาวอเมริกา ระดับไฮเอนด์ ซึ่งผมมองว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์ระดับหนึ่งที่กล้าจะเล่นของ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) เลยทีเดียว เพราะแม้จะบอกว่าประเทศไทยเป็นประเทศอิสระ ทำอะไรก็ได้ (Thailand be free) แต่ก็ค่อนข้างสวนกระแสกับวัฒนธรรมทางเพศของไทยอยู่เหมือนกัน

ทาง ททท. เขาวิจัยแล้วพบว่า ตลาดเกย์-เลสเบียน มีจำนวนประชากรรวม 15 ล้านคน หรือคิดเป็น 6-7% ของประชากรอเมริกาทั้งหมด และส่วนใหญ่ก็มีรายได้สูงด้วย โดยคนเหล่านี้จะเดินทางท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละ 10 ครั้ง และ กรุงเทพฯ ก็เป็นเป้าหมายการเดินทางอันดันหนึ่งที่คนกลุ่มนี้ต้องการมา ด้วยเหตุผลที่ว่า ประเทศไทยมีความเป็นมิตร

“ไทยเป็นเมืองพุทธ พร้อมต้อนรับทุกคนที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน ซึ่งในสายตานักท่องเที่ยวเกย์ หรือ เลสเบียน เขามองว่ากรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับเขา” นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา

ตอนนี้ปล่อยคลิปสปอตโฆษณา มาแล้วด้วย

อ้างอิงข่าว Manager Online

อาจารย์ฌาณเดช พ่วงจีน

SONY DSC

เพิ่งรู้ข่าวการจากไปของท่าอาจารย์ฌาณเดช พ่วงจีน

ผมมีโอกาสได้เข้าฝึกวิชากับท่านประมาณ 2 ครั้ง แต่เป็น 2 ครั้งที่มีคุณค่ามากกับชีวิตผม อาจารย์นอกจากจะเป็นครูมวยไทเก็กที่หาคนเปรียบได้ยากแล้ว ยังเป็นท่านอาจารย์ผู้สอนวิถีการใช้ชีวิต ธรรมะ และความเป็นผู้นำที่หาใครเสมอเหมือน

ท่านเองปวารณาตนเป็นนักพรตตลอดชีพ เพื่ออยู่โปรดลูกศิษย์ เพราะท่านคิดว่าการบวชเป็นพระมีข้อจำกัดหลายอย่าง อาจถ่ายทอดได้ไม่กระจ่างนัก

ภายนอกท่านดูเป็นชายธรรมดาๆ เมื่อเข้าใกล้และรู้จักผิวเผิน ท่านจะดูน่าเกรงขาม แต่เมื่อรู้จัก กลับอ่อนโยนและน่าเคารพ
เป็นเพียงไม่กี่คนที่ไม่ใช่พระหรืิอเจ้า ที่ผมเจอแล้วต้องคุกเข่าไหว้ด้วยความเคารพนับถืออย่างใจจริง และที่น่าประทับใจคือท่านเองก็จะคุกเข่าลงไปรับผมขึ้นมาและกอดแบบ bear hug เสมือนพี่น้องสนิทกันไม่ได้เจอกันนาน

ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาผมคิดจะเดินทางไปพบท่านที่บ้าน หรือแม้แต่ตามบริษัทพวก scg, ptt ที่ท่านไปสอน แต่ผมก็บุญไม่ถึงที่จะได้ไปเจอ เพราะข้ออ้างส่วนตัวสารพัดอย่าง

ผมเชื่อว่าด้วยกุศลบุญที่ท่านได้ทำมา ศีลที่ท่านได้รักษา และฌานสมาบัติที่ท่านได้ฝึกฝน จะอำนวยให้ท่านได้อยู่ในภพภูมิที่ดีภายหลังชีวิตความตาย ขอให้ท่านสู่สุคติครับ

ด้วยรักและคิดถึง