อยู่เหนือความดราม่าทั้งปวง

ผมเจอหลายครั้งที่เวลาใครไม่ต้องการยุ่งอะไรสักอย่างมักจะใช้คำว่า “(ฉัน)อยู่เหนือ..(อะไรบางอย่าง)” แทนการปฏิเสธด้วยคำต่างๆว่า “ไม่ยุ่ง”, “ไม่เกี่ยว” หรืออื่นๆ

กำลังขบคิดอยู่ว่า คนที่คิดประโยคนี้สุดยอดมากเลย
เพราะนอกจากจะพูดทีเดียวเพื่อให้คนอื่นได้รู้ว่า “ฉันจะไม่ยุ่งกับ..(อะไรบางอย่าง)” แล้ว
การบอกว่า ฉันอยู่เหนือ ยังเป็นการบอกว่า (อะไรบางอย่าง) นั้น อยู่ต่ำกว่าเรา
ดูมันช่างไร้ค่า เราไม่สนใจมัน เราไม่แยแสมันเสียด้วยซ้ำ

ตัวอย่างรูปประโยคเช่น “นายฟิวส์อยู่เหนือความดราม่าทั้งปวง”

แม่ม! นอกจากจะบอกว่ามันไม่อยากยุ่ง ยังทำให้มันถูกยกตัวเป็นผู้ละซึ่งความดราม่าทั้งปวงขึ้นมาทันทีทันใด

จบข่าว

จิตใจของคน ในความคิดของ อดัม สมิธ

แม้แต่เจ้าพ่อเศรษฐศาสตร์อย่าง อดัม สมิธ ก็เคยพูดไว้ว่าจิตใจของคนทุกคน ไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาว สุดท้ายจะกลับไปสู่ความสงบตามธรรมชาติ คนที่รวยขึ้นหลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่ง ก็จะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รวยอะไรขึ้นเหมือนเดิม ส่วนคนที่จนลงหรือเจอแต่ปัญหาความตกต่ำ หลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่ง ก็จะกลับไปรู้สึกดีขึ้นเท่าระดับเดิมที่ชีวิตเคยมี

ระยะทาง

20130622_214430
วันนี้ฉันได้ขาย Wii Remote ให้กับชายคนหนึ่ง เขาดั้นด้นจากชานเมืองเพื่อมาเจอฉันย่านสะพานควายให้ได้ฉันก็แอบหัวเสียเล็กๆว่า เขาจะรีบซื้อไปไหน ของก็แค่ราคาพันกว่าบาท ฉันต้องเดินกลับบ้านเพื่อไปหยิบของมาส่งให้เขาที่ห้างแห่งหนึ่งเขาบอกว่าเขาได้ซื้อเครื่อง Wii ราคาถูกมาจากเพื่อนคนหนึ่ง แต่มันมี Remote แค่อันเดียว เขาเลยจะขอซื้อจากฉันไปอีกอันหนึ่งเห็นว่าถูกดี ฉันดูจากหน้าตาของเขาแล้วประมาณรุ่นเดียวกับฉัน ฉันเลยถามเขาว่า รีบมาซื้อขนาดนี้ เอาไปเล่นกับแฟนหรอครับ แต่คำตอบทำฉันอึ้งไปชั่วคราว เขาบอกว่า เขาอยากซื้อไปเล่นกับลูก..

ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขายอมเสียเวลาและเสียเงินเพื่อมาซื้อของชิ้นนี้ แต่ฉันแอบมีความสุขเล็กๆ ที่ทำให้ชายคนนี้ได้มีกิจกรรมยามว่างสนุกๆกับลูกชายของเขา

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาฉันก็เพิ่งได้ฟังเรื่องแม่กับป๊าฉันเหมือนกัน ป๊าฉันเป็นพวกชอบกินของอร่อยๆ และมันก็มักจะไกลจากบ้านพอสมควร แต่แม่ฉันก็จะไปสรรหามาให้จนได้ ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหนก็ตาม, หรือบางทีเขาก็ขับรถไปกินกันถึงต่างอำเภอ ต่างจังหวัดเลยทีเดียว

แต่ก็ใช่ว่าป๊าฉันจะไม่ทำอะไรเลยนะ การที่เขารู้ว่าร้านไหนอร่อย เขาก็ไปดั้นด้นซื้อมาให้ฉันกินทุกเช้าเช่นกัน ถ้าช่วงไหนปิดเทอม ก็มีมื้อเที่ยงตามมาด้วย ซึ่งฉันพอเดาได้ว่า ป๊าน่าจะติดมาจากอาม่า เพราะอาม่าก็ทำกับฉันหรือกับป๊าหรือกับลูกหลานคนอื่นๆแบบนี้เช่นกัน

ฉันคิดว่า ระยะทางคงไม่ได้พิสูจน์ม้าเพียงอย่างเดียว แต่สามารถพิสูจน์ความห่วงใยและความรักของคนได้อย่างหนึ่งเช่นกัน

[tweetherder]บางที การแค่ไปเพื่อให้คนปลายทางได้รู้ว่าเราไป ก็ไม่จำเป็นต้องมีของฝากใดๆ นอกจากความรู้สึก[/tweetherder]

ปล. Wii Remote ยังเหลืออีก 1 ชุด ใครสนใจ ติดต่อมาได้ ชุดละ 1,500 มีครบเซ็ต (Wii Remote + Controller + Nunchuk)

หนังสือทัศนศึกษา

1014016_10153004637760644_1640335465_n

หนังสือทัศนศึกษา ของ Chonnapat Setdhasoratha ยิ่งอ่านยิ่งตื่นเต้น นอกจากรูปที่ต้องเพ่งพิจารณาถึงความคิดก่อนกดชัตเตอร์แล้ว ยังมีเกร็ดเล็กๆน้อยๆที่ก็ไม่รู้มันไปฟังไกด์หรือใครที่ไหนมา ในมุมที่เราไม่รู้ด้วยของประเทศนั้นๆ สรุปสั้นๆ เป็น ประหนึ่งอ่านทวิตเตอร์ รายการสำรวจโลก ฉบับเด็กแนวเลยทีเดียว

ปล1. ตอนซื้อคิดว่าราคา 220 บาทแพงแล้วนะ แต่พอได้อ่านทั้งหมด มันก็ยังรู้สึกแพงเหมือนเดิม (เอาเถอะ ยอมจ่ายให้แกไปเที่ยวรอบโลกแล้วกยับมาเขียนเล่มสามต่อ)
ปล2. ไม่เหมาะแก่การเอาไปอ่านในส้วม หรือในอ่าง แม่งเปียกแล้วบวม เป็นรอยนิ้วมือ

มุมมองผมกับการอ้างอิงข้อมูลในอดีต

เพิ่ง อ่าน บทความหนึ่งใน Facebook ว่า

1013401_577405078948977_1082603250_n
“ขายเซ็กส์” ทำลายเพลงลูกทุ่งจริงเหรอ? #ตอแหลแลนด์จากกระแสด่าทอใบเตย อาร์สยามเจ้าของฉายา “สั้นเสมอหู” ว่าทำลาย “ศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม” ของเพลงลูกทุ่ง [1] มันได้สะท้อนความ “ตอแหล” อีกครั้งของสังคมไทย ที่พยายามปฎิเสธความจริงที่ว่าเพลงลูกทุ่งได้หากินกับเรื่อง “เซ็กส์” มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระดับสองแง่สองงามแบบเพลง “หมากัด” ของเอกชัย ศรีวิชัย หรือระดับโจ่งครึ่มแบบ หน้าปกแผ่นเสียงในอดีต เช่น สาวอยู่บ้านใด๋ โดย ปอง ปรีดา [2]

นอกจากนั้น Admin ออกจะแปลกใจนิดหน่อยว่าการขาย “เซ็กส์” ดังกล่าวเป็นการทำลายเพลงลูกทุ่งจริงหรือ? เมื่อย้อนกลับไปตรวจสอบดูหากการขายเซ็กส์ทำลายเพลงลูกทุ่งจริง ป่านนี้วงการเพลงลูกทุ่งคงต้องพินาศย่อยยับสาบสูญไปจนสิ้นแล้ว เพราะวงการเพลงลูกทุ่งก็เหมือนวงการบันเทิงชนิดอื่นๆ ที่มีเซ็กส์ปะปนมาอยู่ด้วยเสมอ ดูจากตัวอย่างที่กล่าวมาแล้ว

ความจริงระคายหูมันอาจมีอยู่ว่าวงการบันเทิงที่เป็นอุตสาหกรรมชนิดหนึ่งมานานแล้ว ไม่ได้อยู่รอดด้วย “ศีลธรรมจริยธรรม” หากแต่อยู่รอดด้วยการมี “ผู้ซื้อ” สินค้าและบริการความบันเทิงนั่นเอง เพลงลูกทุ่งไม่ใช่เป็นเพียง “การละเล่นพื้นบ้าน” อย่างที่ใครอยากให้เป็น แต่มันเป็นอุตสาหกรรมบันเทิงมาตั้งนานแล้ว

บางทีที่ใบเตย “สั้นเสมอหู” นี่เอง อาจเป็นการ “รักษาอุตสาหกรรมบันเทิง” ของเพลงลูกทุ่ง ให้ยังมีคนฟัง คนไปดูคอนเสิร์ตของเธอต่อไปก็ได้ และ แอดมินเชื่อว่า เมื่อใครๆ “ห่วงใยถึงความอยู่รอดของลูกทุ่ง” ไม่มีใครทราบเรื่องนี้ดีเท่ากับนักธุรกิจในวงการเขาหรอกครับว่า “ทำอย่างไรถึงจะอยู่รอด”

ครับ เมื่อแยก “ความอยู่รอด” ออกจาก “ศีลธรรมอันดีงาม” แยก “อุตสาหกรรมเพลงลูกทุ่ง” ออกจาก “ศิลปะการละเล่นพื้นบ้าน” (ซึ่งก็ไม่แน่อีกว่าไอ้การละเล่นพื้นบ้านนั้นจะ “เรียบร้อยดีงาม” อย่างที่ใครๆ เชื่อหรือไม่) เราอาจจะเห็นประเด็น “สั้นเสมอหู” อย่างสมเหตุสมผลและอยู่กับความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น

อ้างอิง

[1] http://fb.kapook.com/musicstation-64829.html

[2] http://th.wikipedia.org/wiki/ปอง_ปรีดา

เครดิตภาพประกอบ Tone Tipayanon

– Admin AC, Jo, & Ao

 

ส่วนตัวผมคิดว่า สันดานเสียอย่างหนึ่งของคนไทยโดยเฉพาะบางกลุ่มคือ การไปหยิบข้อมูลในอดีต ที่สมัยนั้นอาจจะเคยถูกแบนหรือต้องหลบเร้นเผยแพร่ แต่หลงเหลือหลักฐานเพื่อให้ไอ้คนเหล่านั้นเอามาเผยแพร่ในปัจจุบันเพื่อมาเพิ่มความชอบธรรม ว่าบรรพบุรุษก็เคยทำมาก่อน.. แถมแม่งก็จับต้นชนปลายกันมั่ว ทำเหมือนว่าน่าจะเชื่อถือได้เพราะมีหลักฐาน แต่แม่งก็เป็นแค่มุมเล็กๆนิดเดียว คือเมิงทำแบบนี้ ไปเขียนลงต่วยตูนอ่านสนุกๆ ยังจะดีกว่ามาหลอกตีกินชาวบ้านไปวันๆนะ.. ผมไม่ให้ผ่านครับ