บันทึกการออกบวช วันที่ 9

หลวงพี่เดช (เอ๊ะ หรือหลวงน้าดี) อยากอ่านช่วงที่ผมบวชต่อ ก็ขออัพเพิ่มซะเลย วันที่ 29 พค. 2548 (บ.31/05/2548 exteen.07/10/2548) วันนี้หลวงพี่ที่รู้จักกันชื่อท่านปั๊มสึกออกไป ท่านเป็นศิษย์เอกของพระครูนิภาเลยทีเดียว เพราะนั่งสนทนากับท่านทุกวัน วันละนานๆ วันนี้ฉันเช้าพอสมควรแล้วก็ลงไปเป็นพระลำดับให้พระใหม่ซึ่งท่านมีนามสกุล กาญจนกำแหง (นามสกุลคุ้นมากๆ) ญาติโยมที่มาก็มากหน้าหลายตา ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่มีอายุพอสมควร ตอนเริ่มพิธี ต้องนั่งรอพระอุปปัชชา (เจ้าอาวาส) นานพอสมควร เมื่อยขาไปหมด เพราะต้องนั่งพับเพียบ แถมมีการเทศน์สอนนาคอีกประมาณ 40 นาที (พวกหลวงพี่บอกว่า เวลานี้เป้นเวลาเทศน์มาตรฐาน พระดร. เลยทีเดียว) พอเสร็จพธีก็ลงไปฉันเพล และขึ้นมาจำวัด วันนี้ไม่มีอะไรมาก

2 + 2 = 3

ชีวิตมีแต่ความไม่แน่นอนและสับสนวุ่นวาย ดังนั้น 2 + 2 จึงไม่เท่ากับ 4 เสมอไป ในยุคนี้(ควันตัม) อาจจะได้ 3.99999…99998 ก็ได้ ได้แนวคิดจากหนังสือ 2 + 2 = 3 (จำไม่ได้แล้วหละว่าใครแต่ง) + แนวคิดของสนธิ ลิ้มทองกุล

สอบเสร็จสักที

เฮ่อ และแล้ววันนี้ผมก็สอบเสร็จสักที แต่เธอเริ่มสอบวันนี้เป็นวันแรก ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า ปกติเวลาไหนๆ แม้แต่ช่วงสอบ เธอก็จะมาอยู่คุยด้วยกัน พอสอบเสร็จเธอก็จะมาบ่นๆๆๆ ว่ามันโครตยากเยย ทำไม่ได้เยย ไปเดิน big c เพื่อไปซื้อหนังสือไว้อ่านช่วงปิดเทอม (ของเก่ายังอ่านไม่หมดเลย สงสัยต้องปิดโหมดการซื้อหนังสือสักพักใหญ่ๆ) กำลังจะขึ้นบันไดเลื่อน เจอเด็กวัยรุ่นสองคนชายหญิง เดินจู๋จี๋กัน ขึ้นตัดหน้าเราไป มองไปแว้บนึง น้องผู้ชายพูดๆกับผู้หญิง น้องผู้หญิงเลยเอามือไปแตะๆ แก้มผู้ชาย แล้วยิ้มๆ โอ๊ยยยย ตูล่ะอยากกระโดดถีบให้หัวใจมันกระจาย… เจอแบบนี้เครียดเลย คิดถึงเธอจริงๆ คิดถึงวันเ่ก่าๆ อยากให้วันใหม่มีเธอและมีเราเหมือนเดิม

“รักครั้งแรก ใช่จะผิดหวังเสมอไป”

อ่านแล้วก็ต้องร้องไห้จริงๆ >> >> >อ่านแล้วต้องร้องไห้ >> >> >”รักครั้งแรก >> >>ใช่จะผิดหวังเสมอไป >> >> >มีคนเคยบอกว่า ความรักมีอยู่ 3 แบบ >> >> >1. รัก >> >>เพราะหลง >> >> >2. รักเพราะอ่อนไหว >> >> >3. รักเพราะเข้าใจ >> >> >และยังมี >> >>คนบอกอีกว่า >> >> >รักครั้งแรกส่วนมากจะเป็นรักเพราะหลงและมักจะไม่สม >> >>หวัง >> >> >แต่สำหรับผมแล้วรักครั้งแรกเป็นรักที่เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดใน >> >>ชีวิตของผม >> >> >…ผมชื่อ แทน เรียนปี 3 อยู่มหาลัยแห่งหนึ่ง >> >> >ผมต้อง >> …

Are Men from Mars and Women from Venus?

เมื่อวานได้คุยกับเจ้าต่าย เจ้าต่ายอยากมีแฟน แฟนที่อยู่กันแบบอิสระ ไม่ต้องเทคแคร์กันมากนัก ต่างคนก็มีโลกส่วนตัว นึกคิดถึง นึกรัก นึกอยากเจอ ก็เจอกัน อยู่ด้วยกัน เลยบอกเจ้าต่ายไปว่า เมื่อก่อนเราเป็นอย่างนั้น เราไม่อยากให้เขาอึดอัด หรือต้องเบื่อที่จะอยู่กับเราตลอด 24 ชม. แล้วเราเองก็อาจจะเบื่อด้วยถ้าอยู่ด้วยกัน 24 ชม. ติดเป็นตังเม แต่นั่นคือความคิดของผู้ชายสองคนที่ไม่เคยมองความรู้สึกของผู้หญิง หากนายมีแฟน อย่าปล่อยอิสระกับแฟนมากอย่างที่พูด ควรดูแลเทคแคร์เขา ไม่ใช่เราอยากเจอเราก็ต้องเจอ แล้วเวลาเขาอยากเจอเราล่ะ จะทำอย่างไร เวลาเขาไปกับคนอื่นอย่าคิดว่าไม่มีอะไรไปกับเพื่อนๆ แต่ให้คิดหึงและหวงบ้าง เขาจะชอบเพราะเหมือนกับเราดูแลเอาใจใส่เขา เขาเป็นคนสำคัญ ผู้หญิงมองอีกแบบว่า งานสำคัญ แต่ครอบครัวสำคัญกว่า (มันเป็นสิ่งที่แฟนผมคอมเม้นไว้) ซึ่งมันก็ถูกที่มาบอกผู้ชายสองคนอย่างผมและต่ายได้พอดี ว่า อย่าอยู่แต่กับงาน กับคอมฯ มีเวลาให้แฟนซะบ้างสิ! เขาไม่เบื่อตามที่เราคิดหรอก ถ้าได้อยู่กับเรา 24 ชม. เขากลับยิ่งรู้สึกดีที่มีเราอยู่ข้างๆ มันอบอุ่นดี รู้สึกปลอดภัย และเติมพลังให้แก่ชีวิตของเขา แถมอีกนิดว่า จงเชื่อในสิ่งที่แฟนบอกมา นั่นคือคำประกาสิต ที่จะทำให้ชีวิตเรายืนยาวและไปได้สวย เพราะตัวเราเองอาจจะไม่รู้ถึงความจริงตัวเอง แต่คนใกล้ชิดเราอาจจะมองตัวเราออกในอีกแง่มุมซึ่งต้องได้รับการแก้ไข หรือทำมันลงไป …

Exit mobile version