มุมมองผมกับการอ้างอิงข้อมูลในอดีต

เพิ่ง อ่าน บทความหนึ่งใน Facebook ว่า

1013401_577405078948977_1082603250_n
“ขายเซ็กส์” ทำลายเพลงลูกทุ่งจริงเหรอ? #ตอแหลแลนด์จากกระแสด่าทอใบเตย อาร์สยามเจ้าของฉายา “สั้นเสมอหู” ว่าทำลาย “ศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม” ของเพลงลูกทุ่ง [1] มันได้สะท้อนความ “ตอแหล” อีกครั้งของสังคมไทย ที่พยายามปฎิเสธความจริงที่ว่าเพลงลูกทุ่งได้หากินกับเรื่อง “เซ็กส์” มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระดับสองแง่สองงามแบบเพลง “หมากัด” ของเอกชัย ศรีวิชัย หรือระดับโจ่งครึ่มแบบ หน้าปกแผ่นเสียงในอดีต เช่น สาวอยู่บ้านใด๋ โดย ปอง ปรีดา [2]

นอกจากนั้น Admin ออกจะแปลกใจนิดหน่อยว่าการขาย “เซ็กส์” ดังกล่าวเป็นการทำลายเพลงลูกทุ่งจริงหรือ? เมื่อย้อนกลับไปตรวจสอบดูหากการขายเซ็กส์ทำลายเพลงลูกทุ่งจริง ป่านนี้วงการเพลงลูกทุ่งคงต้องพินาศย่อยยับสาบสูญไปจนสิ้นแล้ว เพราะวงการเพลงลูกทุ่งก็เหมือนวงการบันเทิงชนิดอื่นๆ ที่มีเซ็กส์ปะปนมาอยู่ด้วยเสมอ ดูจากตัวอย่างที่กล่าวมาแล้ว

ความจริงระคายหูมันอาจมีอยู่ว่าวงการบันเทิงที่เป็นอุตสาหกรรมชนิดหนึ่งมานานแล้ว ไม่ได้อยู่รอดด้วย “ศีลธรรมจริยธรรม” หากแต่อยู่รอดด้วยการมี “ผู้ซื้อ” สินค้าและบริการความบันเทิงนั่นเอง เพลงลูกทุ่งไม่ใช่เป็นเพียง “การละเล่นพื้นบ้าน” อย่างที่ใครอยากให้เป็น แต่มันเป็นอุตสาหกรรมบันเทิงมาตั้งนานแล้ว

บางทีที่ใบเตย “สั้นเสมอหู” นี่เอง อาจเป็นการ “รักษาอุตสาหกรรมบันเทิง” ของเพลงลูกทุ่ง ให้ยังมีคนฟัง คนไปดูคอนเสิร์ตของเธอต่อไปก็ได้ และ แอดมินเชื่อว่า เมื่อใครๆ “ห่วงใยถึงความอยู่รอดของลูกทุ่ง” ไม่มีใครทราบเรื่องนี้ดีเท่ากับนักธุรกิจในวงการเขาหรอกครับว่า “ทำอย่างไรถึงจะอยู่รอด”

ครับ เมื่อแยก “ความอยู่รอด” ออกจาก “ศีลธรรมอันดีงาม” แยก “อุตสาหกรรมเพลงลูกทุ่ง” ออกจาก “ศิลปะการละเล่นพื้นบ้าน” (ซึ่งก็ไม่แน่อีกว่าไอ้การละเล่นพื้นบ้านนั้นจะ “เรียบร้อยดีงาม” อย่างที่ใครๆ เชื่อหรือไม่) เราอาจจะเห็นประเด็น “สั้นเสมอหู” อย่างสมเหตุสมผลและอยู่กับความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น

อ้างอิง

[1] http://fb.kapook.com/musicstation-64829.html

[2] http://th.wikipedia.org/wiki/ปอง_ปรีดา

เครดิตภาพประกอบ Tone Tipayanon

– Admin AC, Jo, & Ao

 

ส่วนตัวผมคิดว่า สันดานเสียอย่างหนึ่งของคนไทยโดยเฉพาะบางกลุ่มคือ การไปหยิบข้อมูลในอดีต ที่สมัยนั้นอาจจะเคยถูกแบนหรือต้องหลบเร้นเผยแพร่ แต่หลงเหลือหลักฐานเพื่อให้ไอ้คนเหล่านั้นเอามาเผยแพร่ในปัจจุบันเพื่อมาเพิ่มความชอบธรรม ว่าบรรพบุรุษก็เคยทำมาก่อน.. แถมแม่งก็จับต้นชนปลายกันมั่ว ทำเหมือนว่าน่าจะเชื่อถือได้เพราะมีหลักฐาน แต่แม่งก็เป็นแค่มุมเล็กๆนิดเดียว คือเมิงทำแบบนี้ ไปเขียนลงต่วยตูนอ่านสนุกๆ ยังจะดีกว่ามาหลอกตีกินชาวบ้านไปวันๆนะ.. ผมไม่ให้ผ่านครับ

ขนมชั้น

ใจฉันบางทีก็เหมือนเป็นขนมชั้น ที่ชั้นบนๆ ฉันคอยทบทวนกับตัวเองอยู่เสมอว่าฉันไม่เป็นไร และไม่รู้สึกอะไรกับหลายๆเหตุกา

แต่ชั้นกลางๆจนถึงล่าง ฉันเริ่มเห็นความรู้สึกของฉันที่มันชัดเจนขึ้น.. ฉันก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง ฉันเองก็เสียใจ เหงา และโดดเดี่ยว

คนที่ฉันไม่พอใจ

ในชีวิตของฉัน ฉันเคยไม่พอใจใครหลายคนจากครั้งแรกที่ฉันพบ
ส่วนมากเป็นเพราะการกระทำของเขาในสถานการณ์ ณ ขณะนั้น
ฉันรู้สึกโชคร้ายที่เป็นคนหงุดหงิดง่าย แต่ก็โชคดีที่ไม่แสดงออกให้ใครรู้ได้ง่ายนัก

ฉันพบว่าข้อดีที่ฉันมี มันทำให้ฉันได้พยายามใช้ชีวิตร่วมกับคนเหล่านั้นได้อย่างไม่มีความผิดปกติ
และคนเหล่านั้นเองก็คงไม่คิดว่าฉันจะรู้สึกไม่ดีกับเขาตั้งแต่แรกที่พบกัน

เมื่อกาลเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ฉันมักพบว่าคนเหล่านั้นคือคนที่น่าคบหา
ฉันตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไร เหตุผลมันมีมากมายเกินจะเขียนจบในหนึ่งบันทึก
การที่เขาแสดงออกในครั้งแรกแล้วที่ฉันไม่ชอบใจ เพราะพวกเขาเป็นแบบนั้นเอง
มันเป็นลักษณะอย่างหนึ่งของคนตรงไปตรงมาและผลพลอยได้ของคนเหล่านั้นคือเป็นคนจริงใจ

(แต่ก็ไม่ได้หมายถึงทุกคนนะ ฉันว่าฉันพอมองออกว่าใครตรงไปตรงมาจริงๆ หรือเสแสร้งที่จะเป็น)

ทุกครั้งที่ฉันเจอพวกเขาทำดีกับฉัน ฉันก็ยังแอบรู้สึกผิดลึกๆว่า เราเคยคิดไม่ดีกับเขา
อาจเพราะเป็นแบบนั้น มันเลยทำให้ฉันต้องดีกับเขาตอบกระมั้ง สุดท้าย ฉันกับคนเหล่านั้นก็มักเป็นเพื่อนกัน
บางคนก็สนิทระดับได้พูดคุยกันในเรื่องส่วนตัวมากๆ บางคนก็ช่วยงานกันจนเกรงใจเลยทีเดียว

คนในสังคม รวมถึงครูสอนวิชาศาสนามักบอกเราว่า ให้เปิดใจเพื่อเรียนรู้คบเพื่อนใหม่
ฉันคิดว่า ถ้าฉันท่องประโยคนี้สักหมื่นครั้ง ฉันก็คงยังไม่เข้าใจอยู่ดี

ที่เขียนมาทั้งหมด
เพียงเพราะฉันลองพยายามนึกถึงคนที่ฉันเคยรู้จักในชีวิตนี้ และฉันไม่พอใจ

คำตอบคือ ไม่มี..

..
.
6/6/2013 00:50 ห้องนอน

เมื่อฉันไปอัมพวัน

ได้ยินกิตติศัพท์ว่าการไปนั่งสมาธิวัดอัมพวันเป็นอะไรที่เข้มข้น hard core มากกก

เป็นครั้งแรกที่ผมได้ไปฝึกนั่งสมาธิที่วัด และจากที่ไปมาสามวันสองคืน ยังโชคดีที่ไม่เจอแบบเต็มหลักสูตร เพราะตรงกับวันพระพอดี ยังมีสลับให้ฟังเทศน์ฟังธรรมแทรกอยู่เนืองๆ

กำลังคิดว่าอนาคตอาจจะไปลองแบบ 7 วันบ้าง ยังไม่มั่นใจตัวเองว่าจะรับได้ไหม แต่ก็คิดว่าลุงๆป้าๆเขาทำกันได้ ทำไมตรูจะทำไม่ได้วะ, แต่ยอมรับว่า ร่างกายต้องปรับตัวอีกเยอะ เพราะต้องนั่งพับเพียบนานๆ คุกเข่านานๆ ยังมีปัญหามาก

ที่นี่ค่อนข้างระเบียบเยอะ เนื่องจากคนมาร่วมฝึกเป็นหลักพันคน (ช่วงผมไปมีแค่ 900 กว่าคน แต่ช่วงอื่นๆเห็นว่าถึงสามพันคนก็มี) และหลวงพ่อเองก็ชื่นชอบข้อระเบียบและวินัยแบบทหาร ดังนั้น มาที่นี่ ต้องมีวินัยเข้มงวดมาก ห้ามคือห้าม ทำคือทำ และต้องตรงเวลาทุกอย่าง

ไม่คิดว่าจะได้เรียนกรรมฐานแบบ สติปัฏฐาน 4 จากที่นี่ เพราะนึกว่าท่านสอนชาวบ้านทั่วไปจะเป็นเรื่องของนั่งแบบ อานาปานสติ ดูลมหายใจเข้าออก ปรากฏว่า พอเป็น สติปัฏฐาน 4 จึงค่อนข้างไม่ชินกับที่เราเคยฝึกมาเลย ซึ่งที่เราเคยฝึกมันต้องจดจ่อเพื่อได้สมาธิ แต่ที่นี่เน้นเรื่องสติ ฝึกการรับรู้ตามความเป็นจริง จริงๆ ดังนั้นค่อนข้างฟุ้งซ่านอย่างแรง

ที่ฟุ้งซ่านเพราะ กำลังจับอาการปวดขา ก็ต้องไปจับเสียงหมาเห่า แต่ยังไม่ทันได้จับเสียงหมา หมาก็หยุดเห่า ไอ้เราก็ดันคิดเรื่องอื่น ก็ต้องตามไปกำหนดรู้ แล้วดึงกลับมา ก็ดันปวดหลังอีก คือ ไม่ได้จดจ่อแบบที่เคยๆทำเลยทีเดียว วันสุดท้ายเลยกราบถามหลวงพี่ หลวงพี่ก็บอกว่าที่ทำแบบนี้ถูกแล้ว เลยแอบสงสัยว่า แล้วอย่างนี้ฉันจะนิ่งได้หรอเนี่ย โธ่ กรรมเยอะจริงๆ

แต่เอาเถอะ ไปไม่กี่วัน คงไม่ได้อะไรมาก ไว้ถ้าได้ไป 7 วัน น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เข้าใจอะไรมากขึ้น

วันสุดท้ายมีโอกาสได้กราบหลวงพี่อจรัญ ซึ่งเป็นบุคคลไม่กี่ท่าน ที่ผมเจอแล้วเกิดปิติสุขมากๆ ขนลุกน้ำตาซึมเลยทีเดียว แล้วความรู้สึกมันบ่งบอกลึกๆได้ทันทีว่า เหมือนมีพลังงานอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น

สรุปคือ หากใครมีโอกาสได้ไปก็อยากให้ลองไปดูครับ สัก 3 วันก่อนก็ได้ กำลังดี ติดใจค่อยไปใหม่ แล้วอย่าลืมชวนผมด้วยล่ะ ฮ่าๆ

20130531_155840คนเยอะมากเลยครับ วัดตรงเขตปฏิบัติก็มีพื้นที่ไม่ได้ใหญ่นัก ดังนั้นต้องอยู่ในกฏของวัดอย่างเป็นระเบียบมากพอสมควร เพื่อให้อยู่รวมกันได้อย่างปกติสุข

20130531_160058ไปถึง ก็จะมีปฐมนิเทศนืวิธีการสมัครเข้าอบรม ว่าจะต้องกรอกข้อมูบอย่างไร รับชุดขาวที่ไหน รับข้าวของเครื่องใช้ที่ไหน บุคคลใดห้ามเข้าอบรม เข้าอบรมได้กี่วัน ออกวันไหน สำคัญมากครับ จะอยู่ในช่วงนี้หมด โดยปกติแล้วคนอยู่สามวันจะต้องเข้าไปสมัครในวันศุกร์ก่อน 4 โมงเย็น

20130531_161114

กฏระเบียบคร่าวๆ ที่แปะไว้ตรงที่สมัครครับ

20130601_071602ชอบมากครับ ประโญคนี้แปะไว้ตรงจุดรับสมัครเช่นกัน “เราจะพูดแต่ความจริงใจและถูกต้อง เราจะไม่พูดให้ถูกใจแต่ไม่ถูกต้อง”

20130531_210751ที่นอนจะแยกหญิง-ชายคนละตึก แล้วทางวัดมีน้ำไฟให้ใช้ฟรีๆ มีหมอนผ้าห่มเสื่อปูให้พร้อม โดยพระที่นี่จะเป็นคนจัดให้เรา เราผู้ที่ไป ค่อนข้างเป็นหนี้สงฆ์เยอะเลย เพราะที่วัดอัมพวันอำนวยความสะดวกเราทุกอย่างเพื่อให้เราปฏิบัติได้อย่างเต็มที่ (และก็สอนเราอย่างเต็มที่เช่นกัน)

20130602_080239ที่วัดอัมพวัน เวลาสวดมนต์หรือทำกรรมฐานเสร็จ จะมีการอธิษฐานจิตให้แก่หลวงพ่อและในหลวงพระราชินีให้มีสุขภาพแข็งแรงด้วย ซึ่งดีมากๆครับ และที่สังเกตุอีกจุดคือ วัดนี้จะบูชาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอีกพระองค์ด้วย

20130602_094148ได้กราบหลวงพ่อจรัญก่อนกลับบ้าน เป็นบุญจริงๆครับ ครั้งหนึ่งในชีวิต

20130602_094612คนรอกราบหลวงพ่อเยอะมากครับ วันหนึ่งจะเปิดสองเวลาคือ 09:30 กับ 14:30 ใครสนใจไปได้ทุกวันครับ

 

 

 

 

 

 

 

 

รีบไขว่คว้าความรู้สึกนั้นไว้

ในความเป็นจริงผู้คนมากมายต่างโหยหาความฝัน
ความฝันที่ยากบ้างง่ายบ้างแล้วแต่ขณะช่วงชีวิต
ผมนึกถึงการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่เคยบอกไว้ว่า “สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนนน”
(พร้อมทำท่าวาดมือออกกว้างๆ)

ในขณะที่พูด ก็ให้มองไปไกลๆ
ไกลสุดลูกหูลูกตา.. อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

บางคนอาจรู้สึกเป็นท้าทายในโลกกว้าง
แต่กับบางคนอาจกลับรู้สึกเคว้งคว้าง
และเหงา.. เอาหละ ไม่ว่าคุณรู้สึกอย่างไร
แต่สาเหตุของความรู้สึกนั้น
มันเป็นผลลัพธ์ของฝันที่ยังไม่สำเร็จ
หรือจางหายไปในชั่วขณะ

ในห้วงที่เวลานั้นทีลิ้นชักหัวใจของคุณได้พรั่งพรูเปิดออกมา

รีบไขว่คว้าความรู้สึกนั้นไว้
ก่อนมันจะลบเลือนไป
พร้อมกับใจที่ห่อเหี่ยว


บันทึกหลังจากการเดินป่าครั้งแรกที่เขาหลวงสุโขทัย