ช่วงนี้ติดหนังจีนมากมาย (องค์หญิงกำมะลอ) ไม่น่าหลวมตัวดูเล้ยยย ติดจนได้
มีตั้ง 40 กว่าแผ่นแน่ะ เว็บก็ไม่ได้ทำ …ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง เฮ่อ แต่นี่ยังดี ตี 3-4 ก็หลับ ตื่นมาดูอีกที เที่ยงๆ บ่ายๆ แต่ตอนดู ย้อนเวลาหาจิ๋นซี นอนตี 4-5 ตื่นมาดู 9-10 โมง แย่จริงๆ แต่ผลที่ได้ก็เหมือนกัน คือ ไม่ได้ทำอะไรเลยสักวัน ดูแต่หนัง เหอๆ
จะว่าไปแล้ว ใครชอบดูหนังจีนบ่อยๆ หรือ ศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์จีนบ่อยๆ จะพบว่าตั้งแต่ยุคสมัย ฉิน (Qin) ฮั่น (Han) ถัง (Tang) ซ่ง (Song) หยวน (Yuan) หมิง (Ming) หรือแม้แต่ราชวงค์สุดท้ายคือชิง (Qing) ประเทศจีนล้วนยิ่งใหญ่ไพศาล อำนาจล้นฟ้า ทรัพย์สินมากมาย ประเทศเพื่อนบ้านยังต้องสยบ ยิ่งสมัยราวงค์หยวนที่มีกุบไลข่าน (หลานชายเจงกิสข่าน) เป็นผู้ปกครองแผ่นดินยิ่งใหญ่ตั้งแต่กรุงปักกิ่งไปจรดกรุงแบกแดด ยูเครน โรมาเนีย เบลารุส โปแลนด์ ซึ่งถ้าไม่รวมยุคสมัยตอนล่าอาณานิคม ก็จะถือว่าตั้งแต่มีเผ่าพันธ์มนุษย์เกิดขึ้นจีน(หรือมองโกล) มีอาณาเขตกว้างใหญ่แผ่อิทธิพลมากที่สุดในโลก
ยิ่งถ้าเรามองดูตามภาพยนตร์ที่มีเรื่องเกี่ยวกับภายในวังของจีน (เช่น องค์หญิงกำมะลอ ที่ผมกำลังติดอยู่ หรือจักพรรดิ์คังซี และฯลฯ) ก็จะทำให้หลายๆคนนึกถึงความยิ่งใหญ่และความศิวิไลได้ไม่ยากเย็นนัก
เพราะเรื่อง The Last Emperor ได้นำเสนอเรื่องราวยุคสุดท้ายของจีน (ราชวงค์ชิง) โดยดำเนินเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อ ซูสีไทเฮา (ref.1) กำลังจะสิ้นพระชน จึงได้แต่งตั้งให้เด็กน้อย ปูยี (Puyi) เป็นฮ่องเต้ (~2ขวบ 10เดือน เพราะประสูต 1906 และครองราช 1908) มีพระนามว่า ซวนถงฮ่องเต้ (Xuantong Emperor) ต่อมา 1912 ถูกญี่ปุ่นขับไล่ออกนอกราชวัง จากนั้นก็ไปอยู่กับพวกญี่ปุ่น และโดนพวกญี่ปุ่นหลอกใช้โดยให้ตั้งประเทศ แมนจูกัว ขึ้นแต่ถูกควบคุมจากญี่ปุ่นอีกที
ต่อมาก็สมัยสงครามโลก 2 ก็เจอพวกรัซเเซียจับตัวไปเนื่องจากอยู่ข้างญี่ปุ่น หลังจากนั้น 5 ปี ก็ได้กลับมาที่จีนอีกครั้ง จีนก็กลายเป็นสาธารณะรัฐไปเรียบร้อยแล้ว และถูกจับไปอยู่ที่สถานดัดสันดาน (เค้าใช้ว่า reeducation camp เลยแปลไม่ถูก) เพื่อเเปลี่ยนนิสัยและให้สารภาพถึงเหตุการณ์ที่สมคบคิดกับญี่ปุ่นทั้งทั้งหมด ใช้ชีวิตเหมือนในคุก แม้แต่ชื่อตัวเองยังต้องเขียนลงบนพื้น หลังจากนั้น (ไม่แน่ใจว่ากี่ปี) ก็เริ่มชินและยอมรับได้ว่าไม่ใช้ฮ่องเต้อีกต่อไป จึงได้รับการปล่อยตัว และเป็นสามัญชนรับใช้ Chinese People’s Political Consultative Conference เพื่อให้เป็นประโยชน์ทางประวัติศาสตร์
ซึ่งในภาพยนตร์สื่อออกมาเหมือนจะเป็นคนสวนรับจ้างดูแลต้นไม้ดอกไม้ด้วย จากนั้น 1967 ก็ตาย แต่ก็ได้ทิ้งหนังสือชื่อ “The former half of my life” หรือ “From Emperor to Citizen” ไว้ให้ชาวโลกได้รับรู้ประวัติศาสตร์ทั้งหมดอีกด้วย
นี่แหละสูงสุดสู่สามัญที่แท้จริง
—
เขียนไว้ที่ Exteen เมื่อ 30 Apr 2005
source: http://ifew.exteen.com/20050430/entry