ความอดทน มาจากคำว่า ขันติ หมายถึง การรักษาปกติภาวะของตนไว้ได้ ไม่ว่าจะถูกกระทบกระทั่งด้วยสิ่งอันเป็นที่พึงปรารถนาหรือ ไม่พึงปรารถนาก็ตาม มีความมั่นคงหนักแน่น เหมือนแผ่นดินซึ่งไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะมีคนเทอะไรลงไป ของเสีย ของหอม ของสกปรก หรือของดีงามก็ตาม
งานทุกชิ้นในโลกไม่ว่าจะเป็นงานเล็ก งานใหญ่ ที่สำเร็จขึ้นมาได้นอกจากจะอาศัยปัญญาเป็นตัวนำแล้ว ล้วนต้องอาศัยคุณธรรมอัน หนึ่งเป็นพื้นฐาน จึงจะสำเร็จได้ คุณธรรมอันนั้น คือ ขันติ
ถ้าขาดขันติเสียแล้ว จะไม่มีงานชิ้นใดสำเร็จได้เลย เพราะขันติเป็นคุณธรรมสำหรับทั้งต่อต้านความท้อถอย หดหู่ ขับเคลื่อนเร่งเร้าให้ เกิดความขยัน และทำให้เห็นอุปสรรคต่าง ๆ เป็นเครื่องท้าทายความสามารถ ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า ความสำเร็จของงานทุกชิ้น ทั้งทางโลก และทางธรรม คือ อนุสาวรีย์ของขันติทั้งสิ้น
โดยเหตุนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสว่า
“ยกเว้นปัญญาแล้ว เราสรรเสริญว่าขันติเป็นคุณ ธรรมอย่างยิ่ง”
….
ลักษณะของความอดทนที่ถูกต้อง
- มีความอดกลั้น คือ เมื่อถูกคนพาลด่า ก็ทำราวกับว่าไม่ได้ยิน ทำหูเหมือนหูกระทะ เมื่อเห็นอาการยั่วยุ ก็ทำราวกับว่าไม่ได้เห็น ทำตาเหมือนตาไม้ไผ่ ไม่สนใจใยดี ไม่ปล่อยใจให้เศร้าหมองไปด้วย ใส่ใจ สนใจ แต่ในเรื่องที่จะทำความเจริญให้แก่ตนเอง เช่น เจริญศีล สมาธิ ปัญญา ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
- เป็นผู้ไม่ดุร้าย คือ สามารถข่มความโกรธไว้ได้ ไม่โกรธ ไม่ทำร้าย ทำอันตรายด้วยอำนาจแห่งความโกธนั้น ผู้ที่โกรธง่ายแสดงว่ายังขาดความอดทน มีคำตรัสของท้าวสักกะ เป็นข้อเตือนใจอยู่ว่า “ผู้ใดโกรธตอบผู้ที่โกรธก่อนแล้ว ผู้นั้นกลับเป็นคนเลวกว่า ผู้ที่โกรธก่อน ผู้ที่ไม่โกรธต่อบุคคลผู้กำลังโกรธอยู่ ย่อมชื่อว่า เป็นผู้ชนะสงครามอันชนะได้ยากยิ่ง”
- ไม่ปลูกน้ำตาให้แก่ใคร ๆ คือ ไม่ก่อทุกข์ให้แก่ผู้อื่น ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรือเจ็บแค้นใจจนน้ำตาไหลด้วยอำนาจความเกรี้ยวกราดของเรา
- มีใจเบิกบานแจ่มใสอยู่เป็นนิตย์ คือ มีปีติอิ่มเอิบใจเสมอๆ ไม่พยาบาท ไม่โทษฟ้า ไม่โทษฝน ไม่โทษเทวดา ไม่โทษโชคชะตา หรือไม่โทษใครๆ ทั้งนั้น พยายามอดทนทำการงานทุกอย่างด้วยใจเบิกบาน
สรุปแบบภาษาที่เข้าใจง่ายๆ คือ ถ้าหากรู้สึกโกรธแล้ว จงมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป เก็บอารมณ์ไว้ และไม่ทำให้ตัวเราและคนรอบข้างต้องเจ็บช้ำน้ำใจ, ส่วนการป้องกันความโกรธนั้น คือ ไม่ให้โทษใครๆ คิดดี และทำใจให้สดใสอยู่เสมอ
….
ทิ้งท้าย
เวลา………….หนึ่ง สายน้ำ…………หนึ่ง คำพูด…………หนึ่ง โอกาส …………หนึ่ง ลูกปืน……….. หนึ่ง
สิ่งเหล่านี้ ถ้าหากหลุดไปแล้ว ไม่สามารถเรียกคืนได้ คนพูด พูดไปแล้วอาจจะลืม แต่คนฟัง ฟังแล้วตกถึงหู กระทบถึงใจ…
บางคนอาจจะลืม แต่ก็มีบางคนไม่สามารถลบเลือนไปจากใจได้เลย… ตลอดชีวิต
….
คัดลอกมาจากบล็อกเก่าของผม: http://ifew.exteen.com/20050920/entry