ก่อนไปถึงเรื่องตอนวิ่ง ขอเกริ่นที่มาถึงร้อยที่สองภายในสามสิบวันสักหน่อยนึง ว่าไม่ใช่เพราะอีลิทแต่เพราะ อิ..

เป็นงานวิ่งที่ผมตั้งใจมาแค่ 50กม แต่จับพลัดจับผลูมีสัญญาใจกับปลา(อินี่แหละ) Pla Kusumapirome ว่าจะมาลากนางจบร้อยกิโลในงานถัดไป เพราะตอนไปโป่งแยง100กม นางมากับผมได้แค่70กม แล้วก็ DNF โครตน่าเสียดาย.. แล้วหลังจากนั้นนางก็ไปโดนหัวหน้าแก๊งของนางป้ายยาว่า ฟิตถึง ประสบการณ์มี ทำของมาแล้ว จะให้รอถึงปีหน้าเดี๋ยวของเสื่อม นางเลยรีบไปหา bib panoramic 100กม ในทันที แล้วก็มากระซิบผมว่า “ร้อยหน้าเรามาถึงแล้วนะ อีกสี่อาทิตย์ มาลากด้วย..”

“เมิงจะบ้าหรออ” ผมได้แต่อุทานกลับไป เพิ่งจบร้อยกิโลมา แล้วจะให้มาลากนางอีกร้อยกิโลในช่วงเวลาห่างกันแค่สี่อาทิตย์เนี่ยนะ! นางก็เลยพยายามป้ายยาต่อว่าระยะชันน้อยกว่าโป่งแยง100 นะ(เท่ากับโป่งแยง 66กม), ปายหนาวนะ, จะแบกอาหารให้, พกวาสลีนให้ บลาๆ ปิดท้ายด้วยจะจ่ายค่าอัพระยะให้อีกตะหาก.. แหม่ะ ออฟเฟอกันขนาดนี้ ก็ใจอ่อน กลับไปเคลียร์กับเพื่อนในกลุ่มวิ่งเรื่องที่พัก เดินทาง มีเวลาเหลือพอให้วิ่งร้อยกิโลไหม ปรากฎว่ามีเวลาพอ ก็เลยบอกเพื่อนว่าคงไม่ได้ราวมทาง50กมด้วยกัน เพื่อนก็ตกใจกันทุกคนว่าเมิงจะไปอีกแล้วหรอ ถ้าพร้อมก็จัดไป ผมเลยกลับมาตอบตกลงปลาว่าจะไปลากให้.. นางก็จัดแจงเปลี่ยนระยะ bib 50กม ของผม ให้เป็น 100กม ทันที ..

พอผมเปลี่ยนระยะเป็น 100กม จู่ๆผมก็นึกถึงพี่ชายอีกคน ที่คิดว่าอยากให้มาร่วมทางกันนั่นคือ พี่เก่ง Keng Thanawat .. คำแรกที่แกบอก “นั่นไง.. อย่าอีลิทนักเลยพ่อ.. เราก็ไม่จำเป็นต้องร้อยทุกเดือนป่ะว้าา..” ผมก็เลยเล่าสาเหตุให้ฟัง ส่งเกน ส่งข้อมูลให้ดู แกก็ไม่ได้อะไร จู่ๆอีกสามสี่วัน แกมาถามว่า “เลข bib เช็คตรงไหนวะ.. เขายังให้เปลี่ยนระยะได้.. เมิงโอนเงินยัง..” สักพัก แกก็ส่งรูปโอนเงินเปลี่ยนระยะมาให้ดู.. เหยดดด นี่มันคนจริง แล้วเราก็เริ่มปฎิบัติการทำแผนวิ่งกัน โดยพี่เก่งทำแผน29ชม ผมทำแผน31ชม เผื่อบาดเจ็บ แล้วพกกันไว้สองแผน

มาถึงวันรับ bib ระยะร้อยต้องไปรับตั้งแต่วันศุกร์(คนวิ่งส่วนมากคือวันอาทิตย์) ซึ่งเขากำลังจัดเวที ทำนั่นนี่กัน รู้สึกงานเงียบเหงามากกก ไม่มีขายของ คนอยู่รับนักวิ่งมีเจ้าหน้าที่ไม่กี่คน นอกนั้นเป็นน้องๆในพื้นที่ แทบไม่บอกอะไรเลย ดีที่เราพอรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง เลยถามน้อง น้องถึงตอบ (แอบคิดว่าถ้าฝรั่งหรือคนไม่รู้เรื่องจะทำไงหว่า) จนเริ่มคุยกับพี่เก่งและเพื่อนๆว่างานมันแปลกๆ ดูไม่พร้อม มีดราม่าแน่นอน..

คืนนั้นเดินตลาดคนเดินปาย จัดการซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง เป็นมื้อเที่ยง ขนมปัง เจลลี่ ยา เสบียงทั้งหลายพกติดตัวเพิ่มไว้อีก เพราะเริ่มไม่ไว้ใจว่า งานมีให้ขนาดไหน และเราจะเอาตัวรอดได้ไหม

[ถึงวันวิ่งวันแรก .. เช้ามืดวันเสาร์]
วิ่งสิบโมงเช้า แต่ต้องตื่นมาขึ้นรถตอนตีห้า เพราะผู้จัดบอกว่าใช้เวลานั่งไปจุดเริ่มสองชั่วโมง

ตอนตีห้า รถสองแถวมาจอดเรียงหลายคัน นักวิ่งส่วนใหญ่ขึ้นไปนั่งรอกันแล้ว แต่รถยังออกไม่ได้ ไม่รู้ความจริงยังไง แต่ได้ยินว่า แจ้งวันผิดให้กับทีมรถรับส่ง! เลยตามได้ไม่ครบ ต้องไปหารถชุดใหม่มาเสียบแทน กว่าจะได้ออกกันก็ตีห้าครึ่ง

รถเริ่มออกตัวมาสักระยะจนพ้นเขตถนนเข้าทางดิน ผมสังเกตเห็นริบบิ้น เป็นเส้นทางที่เราต้องมาวิ่งผ่านแน่นอน เลยพยายามดูสภาพแวดล้อมเพื่อเตรียมตัวไว้ ทางวกไปวนมา ขึ้นๆลงๆ ขรุขระตลอดทาง เริ่มทำใจสงบนิ่งรอไว้แล้วว่าจะเจออะไร

.. ตึ้ง!.. จู่ๆรถก็กระแทกตกหลุมอย่างแรง แล้วที่นั่งแถวผมก็หักตกลงมากองบนกะบะหลัง.. ชิบหายละ กรูคงหนักสินะ แต่อนิจจา โชคยังดี เหล็กที่หัก แม่งอยู่ตรงฝรั่งปลายแถว ไม่ใช่ตรงกรู รอดตัวไป .. แต่อิที่ไม่รอดคือม้านั่งทับเท้านังคุณปลา เจ็บๆช้ำๆนิดหน่อย แต่ยังใช้วิ่งได้

ใช้เวลาบนรถร่วมสามชั่วโมงก็ถึงจุดเริ่มวิ่งร้อยกิโล ที่โรงเรียนบ้านหมากพริก เป็นโรงเรียนอยู่ท่ามกลางหุบเขาลึก รายล้อมด้วยหมอก วิวดีมาก แต่กว่าจะถึงนักวิ่งแม่งแทบอ้วก อยากจะ DNF กันเป็นแถบ ถึงว่าทำไมให้มาก่อนหลายชั่วโมง เพราะมันนั่งรถนาน และควรต้องได้นั่งกินๆนอนๆ สักพักใหญ่ กว่าจะฟื้นตัว

[ก่อนวิ่ง ชั่วโมงครึ่ง]
มีแจกข้าวต้มหนืดไม่รู้ไก่หรือหมู ให้กินหม้อใหญ่ พร้อมกับน้ำเปล่า เสร็จสรรพเข้าห้องน้ำ เดินทักทายนีกวิ่งด้วยกัน จนตอน 9 โมงก็ถึงเวลาบรีฟ และได้รับแจ้งว่ามีรถนักวิ่งหลงไปสองคัน.. อ้าวชิบ.. รอไป 15 นาที แต่ยังไม่มา ทางผู้จัดเลยบรีฟก่อน

ผู้จัดแจ้งว่า ใน cp แต่ละจุดมีอาหารอะไรบ้าง เช่น ข้าวไข่เจียว ข้าวกะเพรา อาหารตามสั่ง บลาๆ พอถึงจุด drop bag จะประหนึ่งโอเอซิสที่มีอาหาร น้ำดื่ม มีเต็นท์กางพร้อม เป็นจุดที่ปีก่อน พวก 100กม และ 100ไมล์ มานั่งปาร์ตี้รอบกองไฟเลยทีเดียว.. ซึ่งก่อนจะถึงจุดโอเอซิสนี้ โลเคชั่นจะสวยมาก แนะนำให้นักวิ่งปิดไฟคาดหัว เดินเลาะริมน้ำปาย ท่ามกลางแสงจันทร์.. เหยดดด สบายละกรู..

[ก่อนปล่อยตัว 15นาที]
จุดที่พวกผมเริ่มวิ่ง เป็นจุดที่นักวิ่ง 100ไมล์มา bag drop กัน ซึ่งเราก็เจอกับอีลิทน้องกอล์ฟ Jamorn Phookerdsin ที่วิ่งมาแล้ว 60กม มาเช็คพ้อยแบบโทรมๆ บ่นว่าทางที่ผ่านมาโหดสลัดมาก แต่ก็รีบมาให้ทันเจอผมกับพี่เก่งก่อนปล่อยตัว โหย ซึ้งใจชิบเป๋ง อยากจิกอดเลยทีเดียว..

และผู้จัดก็มาแจ้งเราว่า รถที่หลงสองคันยังไม่มา เลยตกลงว่า ถ้าปล่อยตัวแล้ว และรถมาภายใน30 นาที จะชดเชยเวลาให้นักวิ่งทุกคน 30นาที แต่ถ้าเกิน30-60 นาที จะชดเชยให้ 1 ชั่วโมง ซึ่งทุกคนยินดี เพราะได้เวลาเพิ่ม

[เริ่มปล่อยตัว – กม7 แค่เริ่มก็หนืดแล้ว]
ผม ปลา พี่เก่ง เกาะกลุ่มกันออกมา เราวิ่งออกมาได้หนึ่งกิโล เป็นทางราบและลง จากนั้นก็เจอทางขึ้นเขาเลย แม่งวอร์มอัพได้น้อยมาก ซึ่งตอนนั้นปลาแม่งดีด ชีเลยแซงไปก่อน ส่วนผมกับพี่เก่ง ร่างยังประกอบ ได้แต่เร่งเดินตาม แต่ก็ไม่ทันนาง สุดท้าย ให้นางไป เส้นทางช่วงแรกร่มๆสลับแดดนิดหน่อย ไต่ขึ้นไปยังสันเขา และวิ่งบนสันเขาเรื่อยๆ ยังดีที่อากาศพอจะเย็นบ้าง และมีลมเอื่อยๆบางช่วง จนมาถึง กม7 เจอจุดให้น้ำ แอบตกใจเล็กๆ ว่ามีจุดโบนัส แต่เปล่าจ้าา ย้ายจาก กม12 ร่นขึ้นมา ด้วยเหตุผลว่า มีพื้นที่กางของเยอะกว่า อ่ะ ในใจคิด ชิบหายแล้วสิ เพราะจุดน้ำต่อไปคือ กม 24 ก็เลยจัดส้ม ปีโป้ คุกกี้ มาหลายคำ กรอกน้ำเต็มที่ แล้วออกเดินทางต่อ

[กม7-กม24 เกือบตายเพราะจุดให้น้ำไกลมาก]
ออกจาก กม7 ช่วงนี้ยังดี เป็น down hill สบายๆ ลงไปจนถึง กม15 แม่งเจอแม่น้ำจ้าา เลยถอดรองเท้าเดินข้ามไป เพราะไม่อยากเท้าเปื่อย เสี่ยงรองเท้ากัด ซึ่ง ณ จุดนี้เองเจอกับป้ายุ่ย Yui Yuri Kachakorn แล้ว นางวิ่งระยะ 100ไมล์(160กม) เป็นหญิงโหดดีกรีฮ่องกงและมองบลัง สนิทกับพี่เก่ง ก็เลยคุยว่าจะลากกันมา.. เราเริ่มเจอคนนั่งมอเตอร์ไซค์ DNF กันแล้ว แต่ก็สงสัยพี่แกจะเจ็บ ใจยังไม่เสีย โอเคเราไปต่อ ขึ้นจากน้ำ ก็เป็นทางขึ้นเรื่อยๆ เป็นโค้งตัว S ไม่ชันมาก ช่วงนี้ผมเริ่มดีด เดิน up hill เข้าจังหวะเท้ากับลมหายใจได้แบบไม่เหนื่อย

ช่วงนี้ เวลาบ่าย อากาศร้อนพอสมควร เจอทั้งคนบ่นผู้จัด คนน้ำหมดขวด แม้แต่เราเองก็ต้องดื่มน้ำจากเป้สำรองที่หลังมาใช้ จนมาสัก กม20 ได้เจอผู้จัดมาจอดรถกะบะแจกน้ำแจกส้ม แอบรอดตายเรื่องน้ำไปได้ (มารู้ที่หลังว่ามีคนไปโวยวายว่าจุดน้ำห่างไป ผู้จัดเลยแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า)

มีแรงเร่งสับเท้าเพื่อเตรียมมากินข้าวกะเพราที่ cp กม24 แต่พอมาถึง ผิดหวังอย่างแรง แม่งเป็นเพิงร้อนๆ เจอน้ำอุ่นๆ กับขนมปังแถวที่ใกล้หมดเต็มที และหมาอีกสองสามตัว เฮ่อ เลยยัดขนมปังเปล่าๆใส่ท้องไปสามสี่แผ่น ได้สัก 200แคลก็ยังดี เพราะหลังจากนี้ทางไม่ยากแล้ว

[กม24-36 จุดนี้มีไข่เจียวน้าเด่น]
ช่วงนี้ จะเป็นทางถนนดินสลับถนนปูน ทำให้คิดถึงงานอัลตร้าเทรลเชียงรายเลย ลงไปจนมิดกราฟ แล้วก็ไต่ขึ้นเขาเล็กๆ ประมาณ250เมตร กับอีกลูก สัก 100เมตร แล้วก็เจอกับทางราบกันยาวๆ ที่เป็นทางดิน ช่วงนี้เริ่มฟ้ามืด ผม พี่เก่ง ป้ายุ่ย มาเจอกับปลาพอดีที่เนินลูกสุดท้าย ปลาบอกรออยู่ เพราะไม่อยากไปมืดๆกับคนไม่รู้จัก

เดินทางเรียบ ขึ้นลงๆ ไปเรื่อยๆ และแล้วก็มาถึง cp ที่ผู้จัดบอกมีอาหารตามสั่ง และก็จริงด้วย! ที่นี่เป็นร้านอาหารตามสั่ง แต่ด้วยคิวเยอะ เราเลยต้องกินอะไรทีัทำเร็วและทำได้ทีละเยอะๆ นั่นก็คือ ก๋วยเตี๋ยว โดยมีน้าเด่น ช่างภาพของงาน กำลังช่วยแม่ค้าเร่งทำให้ น้าแกก็กลัวนักวิ่งได้สารอาหารไม่พอ เลยเจียวไข่แปะบนก๋วยเตี๋ยวเพิ่มให้ กลายเป็นเมนูที่นักวิ่งและพวกผมชอบมาก ตั้งชื่อให้เลยว่า ก๋วยเตี๋ยวไข่เจียวน้าเด่น และที่นี่ก็มีโค้ด น้ำส้ม น้ำแดง น้ำแข็ง ให้ได้กระดกกันชื่นใจด้วย.. แต่จำไม่ได้ละว่าอะไรฟรีบ้าง รู้แต่โค้กต้องซื้อเอง

[กม36-49 ขึ้นๆลงๆ ฝ่าแปลงกระเทียม]
ช่วงนี้ในกราฟดูเหมือนทางราบ แต่เอาจริงๆ มีขึ้นๆลงๆตลอด ฟ้าคืนนี้มืดสนิทมาก ไม่เห็นดาวไม่เห็นพระจันทร์ เพราะเมฆบังหมด ทางเป็นทางดินอัดแน่นกว้างพอให้รถวิ่งสวนกันได้2คัน สองฝั่งเป็นแปลงดินคลุมฟาง บางจึดมีชาวบ้านกำลังรดน้ำอยู่ ผมถามเขา เขาบอกเป็นแปลงกระเทียม เพิ่งเคยเห็นการปลูกกระเทียมครั้งแรกนี่แหละ เราเดินไปสักพักชาวบ้านคนเดิมก็ขับรถตามมา ตะโกนบอกให้เราขึ้นรถ เราเลยบอกว่ากำลังแข่งขันวิ่งอยู่ เขาก็ขับไป

ช่วงนี้ป้ายุ่ย ปลา พี่เก่ง เดินเอื่อยมาก แต่เอาจริง มารู้อีกทีตอนกลับบ้านดูกราฟ และพวกพี่เขาแซว ว่ากรูนี่แหละดีดเอง เดินเพซ10-13 ทั้งทางราบทางขึ้น อันนี้เพิ่งสังเกตตั้งแต่วิ่งเชียงราย66 โป่งแยง100 ว่าตัวเองเป็นมนุษย์ราตรี พอฟ้ามืดทีไร แรงมันจะมา ยิ่งดึกยิ่งคึก แล้วค่อยไปร่วงอีกทีช่วงเช้ามืด

พอมาถึง cp มีน้ำอัดลม น้ำแข็ง ให้สดชื่นกันอีกรอบ จัดแจงอัดมาม่าไปคนละถ้วย ปีโป้ ส้ม เพื่อเตรียมไปปาร์ตี้กันจุด cp ถัดไปที่เป็น dropbag

[กม49-63 ลุยถนนกันยาวๆ]
ระยะทางช่วงนี้ทรมานที่สุดในเรซ เพราะเป็นทางถนนตลอดสิบกว่ากิโล และมีเนินขึ้นลงสูงกว่าช่วงก่อนพอสมควร ทำให้เดินๆไปสัก1-2กม ต้องหยุดนั่งๆนอนๆที่ถนน เพื่อพักฝ่าเท้า ตอนนั้นรู้สึกระบมกันทุกคน เวลาที่เราทำมาดีๆ ค่อยๆหมดไป และเลยเถิดไปจนช้ากว่าแพลนที่วางมา

ป้ายุ่ยเริ่มเดินตาลอย ให้พี่เก่งเดินจูงมือลากมา ส่วนปลาแม่งยังร่าเริงอยู่ ไม่รู้จริงๆหรือ fake, เริ่มมีนักวิ่งคนอื่นๆแซงเราไปสองสามคน แต่ก็สลับแซงๆพักๆกันเรื่อยๆ รู้สึกว่าเมื่อไรจะสิ้นสุดถนนสักที เบื่อเต็มทน

ท่อนนี้มีมุขมีแรงอะไรกัน ปล่อยกันมาให้หมด มีเรื่องคุยอะไรก็ขุดหมด ไม่งั้นมีหลับ!

จนสุดท้ายมาถึง cp dropbag สักที ค่อนข้างผิดหวัง เพราะของกินมีเพียงมาม่ากับโจ๊กกระป๋อง และน้ำดื่มใส่น้ำแข็ง พี่เก่งถามหาข้าว จนเจ้าหน้าที่ต้องเอาข้าวกล่องตัวเองมาให้นักวิ่งกิน ต้องขอบคุณมากครับ ผมกับพี่เก่งถอดรองเท้าพักและนั่งกินข้าว โหลดอาหารจาก dropbag เข้าเป้, ส่วนป้ายุ่ย ปลา เข้าไปนอนหลับในเต็นท์ จนผ่านไป10นาที เราก็เข้าไปปลุกให้ออกมากินและไปต่อ

[กม63-69 ผ่านป่าช้า]
ช่วงแรกยังเป็นทางถนนอยู่ ผมเริ่มง่วง ต้องกางไม้เท้ามาค้ำ เดินเอื่อยๆเป๋ไปมาอยู่พักนึง เริ่มกลับมามีสติอีกทีนึงตอนหลุดมาทางดิน ค่อนข้างสบายเท้าขึ้นหน่อย แต่ความมันส์ของช่วงนี้ คือ ผ่านป่าช้าและที่เผาศพด้วย เลยก้มหน้าก้มตาเร่งฝีเท้าเดินผ่านไป พอหลุดไปหน่อยก็ถึง cp69 กม จุดนี้แวะเข้าห้องน้ำ โหลดน้ำให้เต็ม เพื่อเตรียมขึ้นเขาสองลูกสุดท้าย ที่โหดสุดในเรซ 100/50 กม

[กม69-76 ขึ้นเขาไปหมู่บ้านที่มีสะพานสวยๆ]
ในกราฟดูไม่โหดอะไร แต่รู้สึกว่าเขาลูกนี้ชันใช้ได้เลย ชันและขึ้นตลอดๆ บางช่วงเป็นทางดินแคบๆ ริมเหว พวกเราเริ่มเจอนักวิ่ง 50กม อันดับต้นๆ แซงไปทีละคนๆ พอพ้นช่วงนี้ก็เป็นป่าไผ่ลื่นๆ และดินที่มีหินกลิ้ง ต้องระวังพอสมควร จนหลุดเข้ามาที่หมู่บ้าน ที่นี่สวยมาก มีสะพานไม้กลางทุ่งนาสวยเลย เดาว่าน่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสักแห่ง

มาถึงจุด cp76 มีให้ผิดหวังอีกแล้ว โดยจุดตั้งไว้ที่ร้านขายของชำ/ร้านอาหาร แต่อาหารไม่มีให้กิน อยากกินต้องสั่งซื้อเอง มีให้เพียงขนมปังเล็กๆ กล้วย น้ำเปล่า , พวกเราเลยอัดขนมปังกับกล้วย โหลดน้ำเปล่าเพิ่ม ซื้อน้ำเขียวเพิ่มอีกขวดด้วยจะได้เสริมน้ำตาล

มาเจอแก๊ง Trekker Runner ที่นี่ วิ่งกันไวมากเป็นกลุ่มต้นๆของ 50กม ได้เลย พี่ติ๊ทักว่า นึกว่าผม dnf ไปแล้ว เพราะมีคนบอกว่าผมไปจบที่ กม 40, เล่นเอาตกวจเลย นึกว่าระบบเช็ค bib มันพัง ซึ่งมารู้ทีหลังคือเพื่อนในกลุ่มแจ้งข่าวคลาดเคลื่อน ตอนผมไลน์ไปบอกว่าถึง กม40แล้ว, เราทักมายกันเสร็จพวกพี่แกก็นำไปอย่างไว

[กม76-85 ขึ้นดอยเมี่ยง]
จากหมู่บ้านออกมา เป็นทางถนนตลอด ค่อยๆเลื้อยขึ้นไปเรื่อยๆ ในช่วง 1-2กม แรก หลังจากนั้นเป็นถนนขึ้นชันต่อเนื่องกันเรื่อยๆ ผมเจอกับนัท พี่อั้ม นิค และเพื่อนๆระยะ50อีกหลายคนวิ่งแซงมาทักทายในช่วงนี้

พี่เก่งเริ่มกางเกงบาดไข่ ตามมาด้วยอาหารไม่ย่อย พะอืดพะอม โครตน่าสงสาร ผมเข้าใจได้ดีเลย เพราะโป่งแยงผมก็บาดไข่ แม่งเลยรู้ว่าโครตทรมาน, พี่เก่งเริ่มพักบ่อยขึ้น เพราะกินอะไรไม่ลงแล้ว เลยพยายามล้วงของเปรี้ยวๆ มีรสชาติออกมากินทีละนิดๆ ดีที่ได้เจลรสเปรี้ยวๆ ลูกอมมะนาว ไข่สมุนไพร ช่วยได้ระดับนึง

กอล์ฟบอกว่า ดอยเมี่ยงโหดตรงขึ้นเท่าไรก็ไม่สุดสักที ผมเข้าใจละว่ามันเป็นอย่างไร เพราะผมจะคอยดูความสูงตลอด แรงเราเดินขึ้นได้ทีละ 20-30เมตร ต้องพักทีนึง จนเวลาในแพลนรวนมากๆ จนรู้สึกว่าจะไม่ทันคัทออฟบนยอดดอยเมี่ยง 12:30น.

กว่าจะถึง cp บนยอดดอยเมี่ยงที่ 1600เมตร ก็เกือบ 11:00น มาเจอพี่หน่อง พี่อ้น Ganit Seesuwan ขวัญ บนนี้ด้วย แล้วก็ต้องผิดหวังอีกเช่นเดิม คือ จุดนี้ไข่เจียวหมด! ผมเลยตัดใจ กินขนมปังเปล่ากับส้มอีกนิดหน่อย แต่สักพักโชคก็เข้าข้าง มีรถมอเตอร์ไซต์เอาไข่มาส่งพอดี พี่อ้นเลยไปต่อแถวเอามาเสริฟให้พวกเรา ขอบคุณมากครับ

[กม85-93 ขึ้นสุดแล้วต้องลงให้สุด]
รอดตายไปกับข้าวไข่เจียว ก็ถึงเวลากลับบ้านเรา ไต่ขึ้นไปอีกนิดเพื่อให้ถึงยอดดอยเมี่ยง แล้วคราวนี้ก็ลงดิ่งยาวๆ วิวช่วงนี้เป็นป่าสน ทางสวยเลย บางช่วงเป็นหินกลิ้ง ต้องวางเท้าดีๆ กอปรกับเท้าเริ่มพอง เลยทำความเร็วมากไม่ได้

ลงมาจนถึงหมู่บ้านหยุนไหล จุด cp คัทออฟสุดท้าย มีข้าวไข่พะโล้ให้กินด้วย ค่อยรู้สึกดีขึ้นมานิดนึง จุดนี้เจอรถ support ของเพื่อนๆหลายคนมาเปิดท้ายส่งของกินกัน เข้าท่าดีว่ะ

[กม93-100 รอดตายถึงเส้นชัยสักที]
ช่วงนี้เหลือระยะประมาณ 5-6กม จากหยุนไหล ไปที่โรงเรียนปายวิทยาคม แต่เป็นช่วงที่รู้สึกยาวนาน เดินเท่าไรก็ไม่ถึงสักที ป้ายนำทางก็ไม่ค่อยจะเห็นแล้ว ยิ่งเดินเข้ามาฝ่าถนนคนเดินปายด้วย ไม่เจอป้ายเลย ปลาขอวิ่งนำมาก่อน เหลือเพียงผม ป้ายุ่ย พี่เก่งเดินมาด้วยกัน

ช่วงที่พวกผมมาถึง ถนนคนเดินยังไม่ตั้งตลาด คนเลยมีไม่เยอะ นักวิ่งที่เจอเรารวมถึงฝรั่งสองข้างทาง ปรบมือเชียร์เป็นระยะ อยากวิ่งนะ แต่เก็บแรงไว้เส้นชัย ฮ่าๆ ผมเร่งเดินเร็วขึ้น จนทอ้งห่างพี่เก่งป้ายุ่ย กะว่าจะวิ่งมาวนรับอีกที

มาจนถึงถนนหน้าโรงเรียน เริ่มจ็อกเบาๆ มาเจอพี่เตยแวะถ่ายรูปกันแป๊บนึง แล้วจ็อกต่อ ใกล้เข้าเส้นชัย ปลากับพี่เดียร์มาเชียร์

และแล้วก็เข้าเส้นชัยตอน 30ชม พอดี ภูมิใจเช่นเดิมกับการจบระยะร้อยที่สอง หลังรับเหรียญ ตัด BIB ก็เห็นพี่เก่งป้ายุ่ยมาพอดี ผมกับปลาเลยวิ่งออกไปรับและเข้าเส้นชัยพร้อมกัน นี่ถ้าไม่มีแก๊งนี้ ก็ไม่รู้จะจบไหมหรือจบยังไง ต้องขอบคุณจริงๆ

https://www.facebook.com/keng8999/videos/1577477002288355/

https://www.facebook.com/keng8999/videos/1577476618955060/

เขียนมาทั้งหมด ยาวมาก ยาวกว่าทุกครั้งที่ไปวิ่งแล้วกลับมาเขียน เพราะตั้งใจจะบันทึกความรู้สึกตัวเอง และบันทึกเส้นทาง รวมถึงการจัดการของทีมงานทีละก้าวด้วย เผื่อใครจะสมัครงานทีละก้าวหรือมางานพาโนรามิก จะได้เตรียมตัวไว้ว่ามีโอกาสเจออะไรบ้าง

เอวัง ด้วยประการฉะนี้..

Published by iFew

ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ชื่นชอบหลายเรื่องที่ไม่น่าจะไปกันได้ ทำงานไอที แต่ชอบท่องโลกกว้าง รักประวัติศาสตร์ แต่ก็สนใจเทคโนโลยี ชอบสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง และไปป้ายยาคนอื่นต่อ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Exit mobile version