ใครเริ่มหลงรักการเดินป่า หรือเพิ่งเดินป่าครั้งแรก คงกำลังหาดอยที่เดินได้ไม่ยาก และมีวิวสวยๆ ให้ถ่ายรูปได้ ในงบประมาณไม่แพง โพสต์นี้ผมขอแนะนำให้รู้จัก “ภูบักได” ดอยสวย วิวสันเขา เดินสบาย ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น! (ประมาณ 3 กม)
จากกรุงเทพฯ สู่ ภูเรือ
ทริปนี้เราไปกัน 10 คน เดินทางด้วยรถตู้จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางเพชรบูรณ์ ใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง ก็ถึงอำเภอภูเรือ ระหว่างทางถนนดี ขับตรงยาวๆ แต่พอใกล้ๆเข้าจังหวัดเลย โค้งเยอะพอสมควร ใครเมารถง่าย ถ้าหลับได้ควรหลับ, หรือถ้าใครอยู่ทางภาคเหนือก็สามารถมาทาง อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เข้า อ.ด่านซ้าย จ.เลย และก็ถึงภูเรือ ได้เช่นกัน เพราะในกลุ่มเรามีเพื่อนคนนึงขี่มอเตอร์ไซต์มาจากอุตรดิตถ์ ระยะทางประมาณสองร้อยกว่ากิโลฯ
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/06/bangkok-to-phurue-phubakdai.png)
ที่ตัวอำเภอภูเรือ มีตลาดเช้าที่เราสามารถแวะกินอาหารเช้า ซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้ง ซื้อผัก ผลไม้ อาหาร ขึ้นไปทำกินเองบนภูเขาได้ รวมถึงมี 7-Eleven, Tesco Lotus ด้วย หากใครลืมเอาอะไรมา ขอแค่มีเงินซื้อก็พอ (แนะนำว่าอุดหนุนร้านชาวบ้าน พวกอาหารท้องถิ่น เพื่อกระจายรายได้)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_38108425_190701_0029.jpg)
จากตัวอำเภอภูเรือ ขับรถเข้าไปที่ตำบลปลาบ่า อีกประมาณ 10 กม โดยที่ชมรมมีร้านก๋วยเตี๋ยวให้ซื้อหากินต่อกันได้อีก มีห้องอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และที่นี่เองคือที่ที่เราจะขึ้นรถอีแต๊กไปเริ่มต้นเดินภูบักไดกัน
2 ชั่วโมง บนรถอีแต๊ก ที่ไม่มีรีวิวไหนพูดถึงกัน
จากตำบลปลาบ่า เราต้องนั่งรถอีแต๊กไปอีกประมาณ 7 กม ใช้เวลาร่วม 2 ชั่งโมง คิดดูแล้วกันว่า รถวิ่งช้าขนาดไหน ทางต้องสมบุกสมบันขนาดไหน!!
ในช่วงกิโลเมตรแรกๆ ขับผ่านสวนชาวบ้าน ถนนปูนดี เงาต้นยางพาราก็ร่มรื่น แต่หลังจากนั้นเป็นทางดิน สวนแก้วมังกร และมันสำปะหลังเสียส่วนใหญ่ ต้นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน นอกจากใบหน้าต้องปะทะกับแดดเปรี้ยงๆ ยังมีที่ตูดที่นั่งเขย่ากระแทกไม้อยู่บนรถอีแต๊ก บดขยี้จนริดสีดวงแทบแตก และไส้ไหลลงมากองบนรถ
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_37928260_190628_0514.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_3941.jpg)
ยังมิวาย เส้นทางหลายจุดค่อนข้างชันพอสมควร ถ้าโชคดีได้รถอีแต๊กขาแรง ก็เร่งเครื่องขึ้น ไปได้สวยๆ ถ้าโชคร้ายหน่อยก็ได้รถหนืด พยายามเร่งเครื่องแต่ไม่ไหว รถจะไถลดินลงมาให้หวาดเสียวเล่น และต้องออกแรงเดินเท้ากันนิดหน่อย เช่นรถของผมเป็นต้น นอกจากรถเบาแล้ว คนก็ยังอ้วนอีก ฮ่าๆ
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_3953.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_38009967_190628_0050.jpg)
แต่กระนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรดีเลย เพราะสองข้างทางเป็นวิวไร่ชาวบ้านสวยๆ สลับสีสัน ตัดกับท้องฟ้า สุดลูกหูลูกตา
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_DSC05130.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_4109.jpg)
คำแนะนำ: ให้เตรียมอุปกรณ์กันแดดให้พร้อม ไม่ว่าจะ ปลอกแขน หมวก ร่ม เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ครีมกันแดด หยิบมาถือไว้ตั้งแต่ก่อนนั่งรถเลย
เดินง่าย ระยะสั้น แต่เดินให้ไว เพราะทากเยอะนะ
ถึงจุดเริ่มต้นเดินที่ความสูงประมาณ 1,400 เมตร ถือว่ารถย่นระยะให้เราอย่างมาก เพราะเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นสันเขาแล้ว เหมือนอย่างที่เขาว่าจริงๆ เดินง่ายยยยยย
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_3978.jpg)
ช่วงระยะทาง 300 เมตรแรก น่าจะเป็นท่อนชันที่สุดแล้ว เพราะไต่พรวดเดียวจาก 1,400 เมตร ไปที่ 1,500 เมตรเลย เดินๆ พักๆ 15 นาทีก็ถึงสันเขา เป็นลานหญ้า มีต้นไม้ใหญ่ให้นั่งเล่นรอเพื่อน ถ่ายรูป และกินข้าวเที่ยงกันก่อนได้
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_3980.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_3998.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_3987.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_DSC05134.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_38108425_190701_0005.jpg)
จากนั้นเดินบนสันเขา ทางค่อนข้างราบ เลาะริมหน้าผาไปเรื่อยๆ สัก 500 เมตร จะเจอจุดถ่ายรูป เรียกว่า ลานฟ้าผ่า เป็นลานหญ้าโล่งๆ ที่มีต้นไม้ถูกฟ้าผ่าไหม้ดำ (เอาตรงๆ วิวไม่ได้ต่างจากต้นไม้ใหญ่เมื่อเราขึ้นมาตอนแรก)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_37987571_190628_0108.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_DSC05177.jpg)
จากนั้นเดินต่อไปจะเริ่มมีร่มไม้เยอะแล้ว แน่นอน มีความชื้นบ้าง และมาพร้อมกับ ทาก!! เยอะซะด้วย แต่ก็ไม่ดุ เพราะรู้สึกว่าเกาะไม่เก่ง เกาะแล้วก็ไม่ได้รีบดูดเลือด กระดึ๊บไปมา นานพอผมจะสังเกตและดีดออกได้ (กลับกัน ทากที่ดุในความรู้สึกผมคือ เกาะแล้วเราดูดเลย หรือเกาะแล้วชอนไชหาเนื้อเราเพื่อดูดเลือด ไม่เอ้อระเหยลอยชายแบบนี้นะ เช่น ที่ดอยหลวงตากเป็นต้น)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_37928260_190628_0254.jpg)
เดินจนมาถึงทุ่งหญ้าโล่งเป็นแอ่งกะทะ มองฝั่งตรงข้ามเป็นเนินมีหินเยอะๆ ตรงนั้นเองคือจุดหมายปลายทางของเรา
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_4007.jpg)
เพราะเดินขึ้นเนินไป ผ่านป่าด้านบนสัก 50 เมตร ก็ถึงจุดกางเต็นท์
จุดกางเต็นท์ ที่ต้องหลบแดด หลบลม
เดินขึ้นเนินหินมา จะมีป่าเล็กๆให้ผ่าน จุดนี้ระวังให้ดี ถ้าไม่เจอทาก ก็อาจจะเจอกับกองทิชชู่ พอพ้นป่าแล้ว จะเป็นลานหญ้า ซึ่งทีมเรากางเต็นท์กันตรงใกล้ๆหินก้อนใหญ่เพื่อใช้บังลม
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_4026.jpg)
ตรงที่กางเต็นท์ค่อนข้างร้อนเพราะไม่มีต้นไม้บังเท่าไร อาจเพราะเรามาหน้าร้อนด้วย และที่แย่ที่สุดคือ แมลงวันเยอะมากๆๆๆๆ มาตอมพวกขี้วัวขี้ควายที่ขึ้นเขามากินหญ้า แต่ก็ต้องแลกกัน ถ้าเอาลม ไม่มีแมลงวัน แต่ก็ต้องออกไปที่โล่ง แดดแรง และกลางคืนอาจจะลมแรงก็ยังไม่รู้ได้
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_38108425_190701_0004.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_4029.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_4032.jpg)
คำแนะนำ: หาถุง หาที่ปิดแมลงวันไปเผื่อด้วย หรือไม้ดักแมลงวันก็ได้ เพราะผมไม่แน่ใจว่าฤดูกาลอื่นจะเยอะไหม แต่ที่นี่ ณ หน้าร้อน มันเยอะจนน่ารำคาญเลยทีเดียว
ผาหลอกลวง ที่ภูบักได
ตรงจุดกางเต็นท์ของเรา เดินออกไปแค่ 2-300 เมตร ก็จะเจอองค์พระใหญ่ ที่นั่นเอง มีหินแท่งเรียบๆยาวๆ ยื่นออกไปริมหน้าผา แต่ตรงหน้าผานั้น ไม่ใช่หน้าผาตั้งจนน่ากลัว แต่เป็นเนินสโลปลงไป ซึ่ง ณ จุดนี้เอง ที่บรรดานักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเท่ๆ ในท่ายืน นั่ง ห้อยขา โหน กอด กระโดด ทะยาน กันสนุกเลย ได้ภาพประหนึ่งว่า ยืนริมผาสูงนับร้อยเมตร
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_4037.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_37928260_190628_0199.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_38108425_190701_0013.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_37928260_190628_0316.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_37928260_190628_0317.jpg)
แต่ถึงกระนั้น ก็อย่าพลาดตกลงไปนะ เพราะคงหลังกระแทกหิน เจ็บตัวไม่น้อย และน่าจะกลิ้งลงไปไกลอยู่เหมือนกัน
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_37928260_190628_0350.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_37987571_190628_0034.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_DSC05263.jpg)
เราโชคดีที่มาตอนไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว และมาถึงกลุ่มแรกๆ จัดแจงตั้งที่พักเสร็จ ก็มาถ่ายรูปหินกัน เลยทำให้ไม่ต้องต่อคิวถ่ายรูปหลายคน (อ่านจากหลายๆรีวิว ยืนเรียงกันเป็นแถวเลย) จะแข่งก็กับพระอาทิตย์ที่ตกดินเร็วเหลือเกิน แอ็คท่าไม่ทัน ฮ่าๆ
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_DSC05374.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_DSC05363.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_DSC05311.jpg)
ภูบักไดในหน้าร้อน แต่อุณหภูมิ 15-20 องศา
จริงๆ ข้อนี้ตั้งใจเขียนเตือนนักเดินป่ามือใหม่โดยเฉพาะ ด้วยความที่จุดกางเต็นท์สูงถึง 1,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล มันจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าพื้นราบข้างล่างแน่นอน
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_c3ee2e34472ff55b0c3decfe44f6afad5_37928260_190628_0597.jpg)
อย่าคิดว่าเป็นหน้าร้อนแล้วไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาว ยิ่งถ้ากางเต็นท์ใต้ร่มไม้ หรือมีลม มีฝนมาผสมด้วยแล้ว อาจจะลงไปถึง 10-15 องศา ได้, มีไว้ใช้ ดีกว่าไม่มีนะ นอนทรมาน
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_4051.jpg)
![](https://myifew.com/wp-content/uploads/2019/07/phubakdai_IMG_4050.jpg)
คำแนะนำ: ดูพยากรณ์อากาศไว้แต่เนิ่นๆ โดยปักโลเคชั่นไปที่ อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย แต่ค่าที่ได้เป็นค่าพื้นราบนะ (เดาว่าจุดวัดอยู่แถวตัวอำเภอภูเรือ), ได้ค่าองศาพื้นราบเท่าไร ก็ลบไปอีก 5 เลยครับ เช่น อำเภอภูเรือกลางคืนวัดได้ 22องศา, บนยอดภูบักไดก็น่าจะ 17องศา เป็นต้น (ความสูงเพิ่มขึ้นทุกๆ 100 เมตร อุณหภูมิจะลดลง 0.6องศา)
อยากไปเที่ยวภูบักได ต้องทำอย่างไร ค่าใช้จ่ายเท่าไร
ปิดท้าย ถ้าบล็อกนี้ทำให้ผู้อ่านอยากไปบ้าง ก็สามารถติดต่อชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลปลาบ่า สอบถามรายละเอียด และจองบริการนำเที่ยวได้ที่ นายเชิด สิงห์คำป้อง ประธานชมรม โทร. 095-701-3139, 087-866-2648 หรือ นางสาวมยุรี ศรีบุรินทร์ เลขาฯ โทร. 095-658-7113
โดยมีค่าใช้จ่ายเป็น ค่ารถอีแต๊ก 3,000 บาท นั่งได้ประมาณ 5 คน โดยราคานี้รวมคนนำทางและแบกของกลางให้เราประมาณ 10 กิโลฯ (ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ขับรถอีแต๊ก) ค่าบำรุงสถานที่ ประกันภัยอุบัติเหตุ (โตเกียวมารีน) ค่ากาแฟตรงจุดขึ้น/ลงรถอีแต๊กที่หมู่บ้านปลาบ่า ค่าอาบน้ำที่ชมรม ค่าบำรุงชุมชม
ถ้าอยากได้ลูกหาบ ให้แจ้งไปตั้งแต่ตอนจองเลย เพื่อเขาจะได้เตรียมคนให้ ถ้าผมจำราคาไม่ผิด (พอดีไม่ได้ใช้บริการ) คิดทั้งทริป 2 วัน 1 คืน ที่ราคา 1,000 บาท สามารถแบกของให้เราได้ 20 กิโลฯ
พิกัดที่ต้องพาตัวไปให้ถึงเพื่อขึ้นรถอีแต๊ก : ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลปลาบ่า
สรุป
เป็นยอดดอยที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก เดินทางสะดวก นั่งรถกันตูดแหกริดสีดวงแตก และคิดว่าเหนื่อยกว่าเดินเสียอีก ยอดเขาเป็นสันเขาให้เราเดินเลาะไปเรื่อยๆ ที่หยุดมองที่ผาไหน ก็จะเห็นวิวเดิมเหมือนกัน ฮ่าๆ (อารมณ์ภูกระดึง เดินสิบผา เดินสิบกิโล แต่ได้หนึ่งวิว), วิวสวยดี สวยแบบไร่ชาวบ้านสลับสีสัน แต่ไม่ใช่สวยแบบป่าเขียวๆ
นอกจากแนะนำนักท่องเที่ยวแล้ว ผมคิดว่าเหมาะกับพวกนักวิ่งเทรลที่อยากซ้อมขึ้นเขา เริ่มต้นที่ตำบลปลาบ่า ขึ้นไปยอดภูเลย ไปกลับ 20กม ทางค่อนข้างชันใช้ได้ รับรอง สะใจแน่นอน
ความสวย: 6/10 (ส่วนตัวผมไม่ชอบวิวไร่ทำเกษตร)
ความสนุก: 8/10
ความยาก: ง่ายมาก
แหล่งเติมน้ำ: มี
ระยะทาง: เดิน 3 กม, นั่งรถอีแต๊ก 7 กม
ความสูงยอดดอย: ณ ผาหลอกลวง 1,500 เมตร (แต่จุดสูงสุด 1,511 เมตร)
——
ขอบคุณรูปประกอบจากเพื่อนๆ ในกลุ่มฮะ