in Travel

พาย SUP ล่องไทรโยค ชมม่านน้ำตกแห่ง กาญจนบุรี

เพิ่งมีโอกาสหัดพาย SUP ครั้งแรกในชีวิตที่แม่น้ำเจ้าพระยา ในกิจกรรมพาย SUP เก็บขยะ ก็แอบตื่นเต้นดี เพราะครั้งแรกก็ผาดโผนไปก้มๆ เงยๆ เก็บขยะเลย แต่ก็สนุกมากเช่นกัน จนไปเข้าตาเจ้าของเพจเที่ยวดัง Rami in the Wild ที่มีจัดทริปพาย SUP เส้นน้ำตกไทรโยค พอดี แม้ว่านางจะระบุสเปกลูกทัวร์ไว้ว่า “Not for Beginners” ก็ตาม แต่มองตาก็รู้ใจ ไอ้นี่(ผม)บ้าๆบอๆ น่าจะ turn pro กันหน้างานได้ และรับผิดชอบตัวเองได้ ก็คงมาทักชวนเล่นๆ แต่เราก็บ้าจี้ ตกปากรับคำทันที! เลยเป็นที่มาของทริปนี้…

เดินทาง และเตรียมตัว

ถึงวันนัดหมาย มุ่งหน้าไปเจอกันที่ SEDS-Kanchanaburi ซึ่งเป็นผู้ให้บริการพาย SUP ในจังหวัดกาญจนบุรี เราเจอผู้ร่วมทางอยู่รวมๆ 20 คน ได้ มีพี่แว่น เจ้าของ SEDS มาต้อนรับ และให้เลือเสื้อชูชีพ ก่อนจะบอกให้ขึ้นรถตู้เพื่้อเดินทางไปจุดปล่อยตัว

ใช้เวลาราวๆ เกือบ 2 ชั่วโมง ถึงร้านอาหารแถวไทรโยค ซึ่งเป็นจุดกินมื้อเที่ยง และจุดเริ่มต้นของเส้นทาง ต้องบอกว่า อาหารที่ร้านนี้อร่อยมากครับ แต่ก็อย่าทานมากไป เดี๋ยวจะจุกและหนังตาหย่อนได้ระหว่างอยู่บน SUP

การเตรียมตัว และนำเป็นเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว มีหมวกเพื่อป้องกันแดดให้เต็มที่ โบ๊ะครีมกันแดดด้วยยิ่งดี เพราะเส้นทาง SUP น้ำตกไทรโยค มีระยะทางราวๆ 20 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ดังนั้น เราจะไม่เจอความร่มรื่นใดๆ กลางสายน้ำแควอันกว้างใหญ่ แน่นอน

ทางผู้จัดได้เตรียมน้ำดื่ม อาหารว่างอย่างข้าวกล่องและข้าวเหนียวไก่ทอด ไว้ให้ แต่ถ้าใครอยากพกน้ำ ขนม ไปเอง แนะนำให้ใส่ Sea Bag ส่วนพวกเงิน มือถือ กล้อง แนะนำว่าเก็บไว้บนรถดีกว่าครับ เพราะทริปผมมีคนทำตกน้ำแล้ว เรื่องถ่ายรูป ทางทีมผู้จัดมีกล้องถ่ายให้เราตลอดทาง ไม่ต้องเป็นห่วงครับ (แต่ถ้าเป็นพวก Action Camera อย่าง GoPro ควรรัดติดหน้าอก หรือคาดหัว หรือติดกับทุ่นลอยน้ำจะดีกว่าครับ)

เรื่องการเข้าห้องน้ำ ปวดตรงไหน โดดลงน้ำได้ตามใจชอบเลย อิอิ

เริ่มต้นก็ยากเลย

หลังจากทานข้าวเที่ยงและเตรียมอุปกรณ์ ทางพี่แว่นผู้นำทริปได้แนะนำข้อปฏิบัติต่างๆ และชี้แจงเส้นทางให้เราฟัง จากนั้นก็พากันทะยอยลงน้ำทีละบอร์ด

ช่วงที่ผมไป น้ำเยอะเล็กน้อยและมีคาวมเชี่ยวประมาณหนึ่ง ยืนเฉยๆไม่พาย บอร์ดก็ไหลไปได้เรื่อยๆ ผมค่อนข้างตื่นเต้นและเกร็งอยู่นาน (เอาจริงก็เกร็งจนเกือบจบทริป ฮ่าๆ) พี่แว่นได้เล่าให้ฟังว่า เริ่มต้นทริปเราก็จะเจอจุดโหดก่อนเลยคือช่วง กม ที่ 3 จะต้องรอดตอหม้อสะพาน และแม่น้ำตรงนั้นแคบ เป็นโค้งรูปตัว S ดังนั้นจะต้องละเลียดไปตามทางโค้งน้ำและไม่ชิดด้านใดด้านหนึ่งที่อาจจะไปเสี่ยงเข้าฝั่งหรือไปมุดใต้แพข้างทาง

ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิดและน้ำไหลด้วย ก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดา แต่ก็ซิกแซกผ่านมันไปได้ด้วยดี แต่ความเกร็งก็ยังมีอยู่ ฮ่าๆ

เริ่มชิลๆ

หลังจากล่องไปได้สัก 30 นาที ก็เริ่มคุ้นเคย ที่จะยืนบ้าง นั่งบ้าง เปลี่ยนอิริยาบท

เส้นทางทั้งสองฝั่ง จะเรียกว่าไม่ได้ห่างไกลความเจริญ แต่ก็ยังมีความเป็นธณรมชาติเขียวๆ แบ็คกราววิวภูเขาสวยๆ และแสงอันร้อนแรงตามธรรมชาติของเมืองกาญฯ แต่นี่คือเสน่ห์ของเขาหละ ดังนั้นควรพกหมวกปีก และทาครีมกันแดดไว้ให้ดี

พักถ่ายรูปกลางเกาะ

ผ่านไป 1.30ชม หรือราวๆ 6กม จะเจอเกาะเล็กๆ เราจอดลงไปถ่ายรูปเล่นกัน และนอนแช่น้ำ เย็นสดชื่นมาก และได้ยืดเส้นยิดสายหลังจากยืนเกร็งบน SUP มาสักพักใหญ่ ใครอยากทำธุระส่วนตัวก็เชิญที่เกาะนี้ได้เลย ฮ่าๆ

กม 8-10 ระวังให้ดี

พ้นจากเกาะ และตีโค้งหักศอก เข้าสู่ช่วง กม ที่ 8 ร่องนี้ต้องฟังคนนำทริปให้ดี และปฎิบัติตาม เนื่องจากมีตอหม้อสะพานอยู่ 3-4 ตอหม้อได้ ทางคนนำได้ดูไลน์น้ำไว้แล้วว่าจะต้องรอดช่องที่ตอหม้อท่อนไหน เพราะนอกจากต้องหลบตอหม้อ และมีความตื้นเขินของน้ำบางจุด ยังมีแพรขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ สะพานอีก ดังนั้น เราต้องรอดผ่านไปและควบคุมทิศทางให้ดี

รวมไปถึงพอพ้นแพรใต้สะพาน ยังเจอแพรอีกชุด ก่อนจะพายโค้งเป็นรูปตัว S อีกรอบ เอ้อ สนุกกว่าแม่น้ำเจ้าพระยาเยอะเลย ฮ่าๆ

พักกินข้าว วางแผนกันสักหน่อย

ล่องกันมาได้ 15กม ถึงเวลาต้องเติมพลัง ซึ่งทางคนจัด นอกจากมีน้ำและขนมให้เรากินได้ระหว่างทางแล้ว ยังมีมื้อข้าวเหนียวไก่ทอด/ข้าว ให้เรากินด้วย ไม่รู้จะเรียกมื้อไหนดี แต่ยอมรับเลยว่ามื้อเที่ยงของเราได้อันตรธานหายไปหมดแล้ว (จริงๆ ก็ตั้งแต่ชั่วโมงแรก ฮ่าๆ) เขาจะให้เราจอดหิมชายหาดและพักกินมื้อหนักกัน โดยตรงที่พักกินนี้เอง มีน้ำตกเล็กๆ ฝั่งตรงข้ามด้วย ใครอยากพายไปดู หรือไปกระโดดน้ำเล่นก็ได้ แต่สุดท้ายมีแต่พวกสตาฟที่ไปสนุกกัน พวกเราก็เป็นคน ชม ฮ่าๆ

ในขณะทุกคนกำลังกินข้าว พี่แว่นก็หยิบหิน ขุดทรายอยู่ ผมก็นึกว่าแกจะทำเพื่อถ่ายรูปเล่น สักพักแกเรียกทุกคนเข้ามาดู ซึ่งมันคือแผนที่ช่วงน้ำตกไทรโยค ที่เรากำลังจะเจอในอีก 2กม ข้างหน้า แหม่ แผนที่ดูน่ารักเชียว แต่พี่แว่นเริ่มเล่าด้วยความซีเรียส เนื่องจากพื้นที่ข้างหน้าจะเป็นอุทยานน้ำตกไทรโยค จะมีแพอยู่สองข้างฝั่ง มีเรือลากแพรผานอยู่เรื่อยๆ จะเกิดคลื่นทำให้เราเป๋ได้ถ้าทรงตัวไม่ดี และที่สำคัญ มีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยสอดส่องด้วย ถ้าเผลอไปทำอะไรอันตรายหรือผิดกฎเขา เดี๋ยวจะพาลโดนให้เลิกซะ

ไฮไลท์ – พายมุดม่านน้ำตกไทรโยค

ตรงก่อนถึงน้ำตกเราจะพายชิดฝั่งขวาเรียงหนึ่งก่อนเพื่อหลบแพร จากนั้นข้ามไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเล่นน้ำตกแรก และข้ามกลับไปจัดขบวนเรียงแถวตอนหนึ่งตามเดิม เนื่องจากแพรมีสองฝั่งและมีเรือแล่นตรงกลางลำน้ำบ่อยๆ เราจะเลาะฝั่งขวาตอนหนึ่งเรื่อยๆ จนผ่านน้ำตกสองไปก่อน และจอดรอขวาเพื่อรอคิวเข้าไปเล่นน้ำตกสอง (ใครนึกไม่ออก ดูได้จากแผนที่ GPS) จุดนี้เอง จะมีเรือลากแพรมาให้นักท่องเที่ยวได้ชมและลงไปเล่นน้ำตกกันประมาณ 15-30 นาที โชคดีว่าเราเป็นคิวที่สอง เลยรอไม่นานนัก

น้ำตกแรก
น้ำตกแรก

พอถึงคิวของเรา พี่แว่นรีบโบกมือให้เราไปพายรวมตัวกันที่หน้าน้ำตก และจับเชือกที่สตาฟได้ผูกไว้ หลังจากถ่ายรูปเสร็จสรรพ คราวนี้น่าจะเป็นท่อนมันส์สุดในทริปแล้ว นั่นคือพายเข้าไปในม่านน้ำตก โดยเราต้องออกแรงพายเพื่ออัดเข้าไปในม่านน้ำตก แต่ก็ต้องระวังน้ำที่ไหลลงมากด SUP ด้วย เพื่อไม่ให้พลิกคว่ำ

ตอนนั้นจะกลัวตก SUP ก็กลัว จะว่ามันส์ก็มันส์ พายอัดเข้าไป เจอน้ำตกสาดใส่หัวก็โครตสะใจเลยทีเดียว นั่งแช่อยู่สักพัก จนพี่แว่นเรียกให้กลับออกมา และไปต่อ

ไฮไลท์ – หน้าผาใหญ่ ก่อนจบทริป

จำไม่ได้ว่าจุดตรงนั้นเรียกว่าอะไร แต่เป็นจุดที่พี่แว่นอยากให้เรารีบพายมาถ่ายรูปก่อนสิ้นแสงอาทิตย์ โดยพายจ้ำออกมาจากน้ำตกไทรโยคราวๆ 2กม จะเจอหน้าผาใหญ่ยักษ์ ที่เราสามารถพายเข้าไปในเวิ้งนั้นได้ พี่แว่นก็เลยให้พายไปรวมกลุ่มตรงนั้นและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน

อุตสาห์พายมาตั้งนาน ก็ตก SUP ตรงนี้นี่แหละ เพราะจะไปแกล้งเพื่อน แต่เสียการทรงตัวเสียเอง ฮ่าๆ เรียกได้ว่า มาถึงไทรโยคแล้ว ได้ลิ้มรสแม่น้ำสายนี้เป็นที่เรียบร้อย

จุดที่จบทริปนี้ก็เป็นสะพานแห่งหนึ่งที่ด้านบนมีวัด ให้เราสามารถเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดได้ ก่อนที่จะเดินทางกลับเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี

สรุป

เป็นทริป SUP แรกของผม แต่ก็เป็นทริปที่สนุกเลยทีเดียว ฟังเสียงจากเพื่อนที่เคยไปพาย SUP ที่อื่นๆมา ถือว่าที่นี่เส้นทางไม่ได้สั้นหรือยาวจนเกินไป วิวสวย มีอะไรมันส์ๆให้ทำอย่างพายมุดน้ำตก และทีมงานพี่แว่น SEDS ก็ดูแลดี น่ารักทุกคน ประทับใจครับๆ หากใครสนใจจะติดต่อ Rami in the Wild เพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ หรือจะติดต่อตรงไปที่ SEDS-Kanchanaburi ก็ได้ครับ

เครดิตขอบคุณภาพสวยๆ จาก ตาล Rami in the Wild และ SEDS

มาคุยกัน

Comment