ในงาน Agile Thailand 2025 ฟังเซสชันแรกเลย

Quickly, but not hurry ของคุณ Thor Verapat, CTO InnovestX

  • Be quick, but don’t hurry
  • อะไรต้องทำ ต้องใช้เวลาดำเนินการ ทำได้ก่อน ก็ใส่ backlog และทำในโปรเจ็คเลย เช่น security, compliance ไม่ใช่งานส่วนของการ deliver
  • hurry คือ การเร่งๆ รีบ ไม่ต้องรู้ ไม่ต้องคิด ทำไปก่อน ค่อยไปแก้เอาดาบหน้า .. ขึ้นงานได้จริง แต่ทีมเครียด จบไม่สวย
  • Quick culture อย่าหวังว่ามาจาก top to down, ต้องเริ่มจาก down to top โดยมีคนเริ่มทำ practice ก่อน
  • Discovery จะทำให้เกิด realistic plan
  • pacing บางอย่างเกิดจาก hurry ไม่ใช่ good speed แล้วทีม mamagement/po เข้าใจว่า ก็เคยทำได้ด้วย pace นี้ ก็ควรใช้เวลาเท่าเดิมสิ, แต่จริงๆ เขาไม่รู้ว่ามันขาดตกอะไรหว่างทางไป หรือต้องเหนื่อยอะไร ตอนที่ hurry
  • เอา DoD มาช่วย (ช่วย clarify task) เพื่อลดแผนแบบ hurry
  • Pause spint for Stability, performance, security
  • Pitching ระดับบอร์ดให้ project priority – ควรนำเสนอ value, risk
  • การเมือง กับการล็อบบี้ คือ เรื่องเดียวกัน
  • deliver, implement ให้ดูทิศทางลมด้วย
  • การเมือง ไม่เกี่ยวกับ deliver ช้าหรือเร็ว

ส่วนอีกเซสชัน เรื่องจาก Agile สู่ AI โดย Palo IT

อันนี้พูดกว้างไปนิด ยืดหน่อย รู้ว่าเขาใช้ Copilot เขียน requirement, test case, code, document, design ซึ่งอันนี้ก็ลองทำเองและค้นคว้าอยู่แล้ว แต่สิ่งที่รู้เพิ่มเติมคือ สิ่งที่ผมกำลังทำ เรียกว่า Context Engineering นี่เอง

ช่วงบ่ายเข้าเซสชันเดียวคือ Facilitate Scrum from Hell ของคุณนา คุณกวง

ทั้งเรื่อง ให้ผู้ฟังมาทำ 2 กิจกรรม เช่น สลับทำ facilitate daily standup คนละ 3 นาที ให้เวลาน้อยไป ไม่ค่อยอิน เลยไม่ได้อะไรเท่าไร

บ่ายสาม ฟ้าเริ่มครึ้มเบยกลับบ้านดีกว่า กลัวฝนตก

จบการสรุป #ATH2025 ปีนี้

ขอบคุณทีมงานที่จัดงานดีๆ และสปอนเซอร์ทั้งหลายด้วยฮะ

Published by iFew

ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ชื่นชอบหลายเรื่องที่ไม่น่าจะไปกันได้ ทำงานไอที แต่ชอบท่องโลกกว้าง รักประวัติศาสตร์ แต่ก็สนใจเทคโนโลยี ชอบสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง และไปป้ายยาคนอื่นต่อ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Exit mobile version