เพียงความฝันจางๆที่ผมมองไม่ชัดเจน ผมไม่รู้ว่ามีใครคนหนึ่งรอผมอยู่ในนั้นหรือเปล่า บางทีแค่ในความฝัน ผมก็ไม่อยากคิดถึงเท่าไรนัก ดูเหมือนว่าคนที่ผมอยากรู้จัก อาจดูห่างไกลจนเกินไป ไกลจนผมมองไม่เห็นใครเลย… การเฝ้ารอเป็นงานอดิเรกที่ผมถนัด แม้ผมจะไม่ค่อยชอบมันนัก แต่ให้ตายเถอะ ทำไมมันดูรกร้างว่างเปล่าเสียเหลือเกิน มีเพียงสายลมเท่านั้นที่ผมรู้สึก ในห้วงเวลาแห่งวาเลนไทน์ คนโสดหลายคนรวมถึงผม มักประชดประชันมันด้วยความเฉยเมย แต่ก็อีกหลายคนโสดเช่นกัน ที่ชอบประกาศถึงความโดดเดี่ยวที่ตนครอบครอง … เมื่อคนกลุ่มหลังพร้อมใจกันพูด คนกลุ่มแรกก็พร้อมที่จะรู้สึกร่วมไปด้วย มันเป็นบาป.. ผมขอร้อง… เห็นใจกันเถอะนะ สุขสันต์วันวาเลนไทน์ — posted on 12 Feb 2012 23:07 by ifew source – http://ifew.exteen.com/20120212/entry
Author Archives: iFew
ผ่านพบไม่ผูกพัน
บางที เราอาจเดินทางเพื่อหาที่ทิ้งขยะในหัวใจ บางท่าน แต่งผิวนอกไว้แกร่งกร้าน เนื่องเพราะเนื้อในแน่นคับเกินกว่าจะมีพื้นที่ให้ผู้อื่นบางคน เย็นชาแข็งกระด้าง เพราะรู้ดีว่า หัวใจของตนอ่อนนุ่มเกินกว่าจะเปิดเผย บางครั้ง เราเต็มใจเป็นสะพานให้ใครบางคนก้าวข้ามแต่ห้วงยามแห่งการเสียสละกับห้วงยามแห่งการพลัดพราก ก็มักจะเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งนี้ เพราะสะพานย่อมมิใช่ที่อยู่ถาวรของผู้ใด คนข้างทางในชีวิตเราไม่ได้ปรากฏตัวอย่างไร้เหตุผลเสมอไป ผู้แปลกหน้าเหล่านี้ อาจจะมาพร้อมกับข่าวสารบางอย่างที่ช่วยเติมเต็มความรับรู้หรือกระตุ้นสำนึกดีๆ ที่หายไปให้กลับคืน หากเรารู้จักอ่านความหมายของการพบกัน ถ้าเราอยากรู้จักผู้ใดอย่างแท้จริงสักคนจงดูเส้นทางที่เขาเลือกและวิถีปฏิบัติของเขาขณะอยู่บนเส้นทางแต่ไม่ควรใส่ใจดูว่า เขาไปถึงปลายทางหรือไม่ ในยามที่อ่อนแอและอยากถูกรัก ผู้คนอาจสับสนได้ระหว่างความรักที่คิดมอบให้ผู้อื่น กับความรักที่มีต่อตัวเอง ถ้าเรายอมรับว่าความรักเป็นการผจญภัยชนิดหนึ่ง บางทีการตระเตรียม อุปกรณ์บางอย่าง เพื่อช่วยลดทอนความบอบช้ำเสียหายย่อมเป็นสิ่งที่พอกระทำได้ อันดับแรก จงอย่าสับสนระหว่างการรักผู้อื่นกับการรักตนเอง ข้อหลังนี้มักแสดงออกด้วยการอยากถูกรัก ซึ่งจะติดตามมาด้วยข้อเรียกร้องนานาประการ เช่นนี้ความสั้นยาวของเส้นทางรักก็จะขึ้นอยู่กับว่าคนรักของท่านจะหมดสิ้นพลังเมื่อใด อันดับต่อมาจงอย่าพยายามดัดแปลงคนรักของท่านให้เหมือนตัวท่าน หากจงรักษาความแตกต่างที่เชื่อมโยงเฉกเช่นเวิ้งผ้ากับผืนทะเลที่ติดแน่นอยู่ด้วยกัน เกื้อกูลและส่องสะท้อนความยิ่งใหญ่ของกันและกัน แต่ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน คนเราเกิดมาในโลก แท้จริงแล้วจะมีเพื่อนร่วมทางสักกี่คน ส่วนใหญ่ที่สุดก็เป็นเพียงคนข้างทางของกันและกัน ผ่านพบ ไม่ผูกพันธ์ บางทีอาจลึกซึ้งยั่งยืนกว่าร้อยหัวใจเข้ากับทุกอย่าง ด้วยโซ่ตรวนที่มักเรียกผิดๆว่า “ความรัก” ทั้งหมดจากหนังสือ “ผ่านพบไม่ผูกพัน” โดย เสกสรรค์ ประเสริฐกุล
ไม่กล้า
“คุณครับ เรารักกันได้ไหม” ประโยคง่ายๆ ที่ผมไม่กล้าบอกกับคุณตรงๆ ผมมักมองใครหลายคนรอบข้างผมที่มีคนรัก ผมคิดเสมอว่าจะทำให้คุณมีความสุขแบบนั้นได้หรือเปล่า ผมไม่มั่นใจว่า ถ้าผมบอกคุณไป เราจะรักกันได้นานแค่ไหน คุณครับ ผมกลัว.. ผมกลัวจะทำให้คุณคนที่ผมรักต้องเสียใจ.. วันนี้ผมดูแลคุณดีหรือเปล่านะที่รัก เวลาที่ผมมีให้คุณน้อยไปไหมครับ คุณจะรำคาญอะไรในตัวผมบ้างไหมนะ สิ่งที่ผมทำ ไม่ถูกใจคุณหรือเปล่า ประโยคเหล่านี้ก้องดังอยู่ในหัวผมเสมอ เหตุผลของมันแปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่ผมดำเนินชีวิตในทุกๆวัน ความคิดตอกย้ำกับตัวเองที่ว่า นายฟิวส์ที่กล้าทำสิ่งต่างๆนานา กลับขี้ขลาดกับเรื่องความรัก และสุดท้าย นายก็ไม่มีคนที่มารักนายสักคน และสุดท้าย คนที่นายรัก เขาไม่อยู่รอเพื่อนายได้ตลอดไป มันช่างน่าเศร้า.. บ่อยครั้งผมอยากมีสติ๊กเกอร์หัวใจเล็กๆ แปะไว้ว่าผมจองคุณแล้วนะ แต่ให้ตายเถอะ ผมไม่กล้าทำหรอก และคุณก็คงไม่แปะมันไว้ตลอด แต่ไม่เป็นไรครับ ขอแค่ได้บอกคุณผ่านตัวหนังสือเหล่านี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่กับผมหรือไม่ก็ตาม ขอแค่คุณได้รู้ไว้ “คุณครับ ผมรักคุณ” — posted on 28 Aug 2011 22:33 by ifew http://ifew.exteen.com/20110828/entry
จากผมถึงคุณ
เวลาตีสามในเมืองหลวงที่วุ่นวายมากทึ่สุดเมืองหนึ่ง ฝนเพิ่งตกไปไม่นานนัก ยังพอรับรู้ถึงกลิ่นดินและเสียงหยดน้ำจากหลังคา ผมกำลังคิดว่าตัวเองควรจะพักผ่อนได้แล้ว หลังจากลุยงานมาทั้งวัน ดวงตาผมเริ่มอ่อนล้า และมีอาการปวดเมื่อย เพื่อเตือนให้นอนหลับ แม้ร่างกายชายคนหนึ่งจะเรียกร้องอย่างไรก็ตาม แต่ความคิดถึงใครบางคนยังคงโลดแล่นในสมองจนเขาหลับไม่ลง . . . คุณคนนั้นที่ผมคิดถึง แม้เราทั้งสองยังไม่ได้เป็นอะไรกัน จะมีเพียงอาการที่ผมเป็นอยู่ ทำให้ผมคิดว่าคุณมีความสำคัญกับผมมากเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างไร ผมไม่ใช่คนที่มีสิทธิเรียกร้องอะไรจากคุณ.. เพื่อตัวผมเอง . . . ผมเชื่อว่าคุณมีความน่ารักในแบบของคุณเอง คุณมั่นใจที่จะทำสิ่งต่างๆ และกล้าแสดงออกในสิ่งที่เหมาะสม บ่อยครั้งคุณยอมคุยกับผมตั้งแต่ดึกจนเช้าโดยไม่รู้สึกเบื่อ วันใดที่ผมมีเรื่องให้คิด คุณจะปลอบผม รับฟัง และมีความคิดเห็นให้เสมอ จากสิ่งที่คุณได้ทำ ผมรู้นะว่าคุณฉลาดพอสมควรเลยหละ เพียงแต่คุณไม่อยากแสดงออกให้ผมเห็นตรงๆ ก็เพราะคุณเป็นแบบนี้สินะ หัวใจผมถึงกระวนกระวายแทบทุกคืน.. . . . ผมตั้งใจจะบอกสิ่งเหล่านี้กับคุณ เพียงแต่ผมไม่รู้จะบอกอย่างไรดี ถึงแม้คุณอาจจะไม่ได้อ่านบล็อกนี้ แต่แค่ผมได้ระบายความในใจออกมา เท่านี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ . . . ด้วยรักและคิดถึงที่สุด จากผมถึงคุณ คุณผู้หญิงผู้ไม่มีตัวตน — http://ifew.exteen.com/20110827/entry posted on 27 …
ฉันอยากมีชีวิตอิสระ
โดยปกติผมพยายามจะไม่เขียนเรื่องงานหรือเรื่องเครียด ค่อนข้างคิดอยู่นานที่จะระบายมันออกมาดีหรือไม่ แต่ก็ทำ ใครรู้จักผมดีจะรู้ว่าผมมักไม่ค่อยอยู่เฉย จะคิดหรือทำนั่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา ถ้างานหมายถึงสิ่งที่ทำแล้วได้เงิน คงต้องเริ่มนับตั้งแต่มัธยมต้นที่ผมเริ่มหัดทำเว็บไซต์ง่ายๆ หาเงิน จนจับมาเป็นความชอบ ใช้ไปแข่งขันต่างๆในสมัยเรียน เลือกที่จะเรียนสาขาต่อในมหาลัยฯ และแม้ยังไม่ทันจบ ผมก็ได้งานโปรแกรมเมอร์ จนมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งก็นับว่าเป้าหมายผมมันก็มาทางนี้ตั้งแต่แรกเลยทีเดียว ทุกวันนี้ผมก็ยังสนุกกับการเขียนเว็บไซต์ ยังสนุกกับการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตามที่ล่าสุดผมเพิ่งทำเว็บใหม่เสร็จไปคือ twitjj.com ทุกอย่างดูเหมือนผมไม่มีปัญหาอะไร แล้วผมจะมาบ่นทำไม? ใช่ นั่นมันชีวิตส่วนตัวผมที่ผมไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างยังเหมือนเดิม พ.ศ.2539 เป็นอย่างไร พ.ศ.2554 ผมก็ยังเป็นอย่างนั้น (ดูแก๊แก่เนอะ) แต่สิ่งที่ผมรู้สึกเปลี่ยนไป คือ ความรู้สึกในชีวิตการทำงานของผม ขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่มีปัญหาอะไรกับงานที่ทำ หรือผู้ร่วมงาน หรือองค์กร หรืออื่นใด ผมชอบและรักสิ่งที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ แต่ถ้าเทียบสมัยที่ผมสละชีวิตเรียนมาเริ่มทำงาน จนถึงทุกวันนี้ ความสนุกที่ผมเคยรู้สึกมันหายไป มันหายไปแบบที่ผมไม่รู้ตัว รู้สึกอีกที ผมเหมือนตอนเป็นเด็กที่ไม่อยากไปเรียน ทุกเช้าตื่นมาพร้อมข้ออ้างสารพัดในหัว ฉันปวดหัว ไม่สบาย ขี้ไม่ออก น้ำไม่ไหล ไฟดับ หงุดหงิด สารพัดเรื่องที่บิ๊วให้ตัวเองจมอยู่บนเตียงไปนานๆ มันน่าแปลกใจว่าความรู้สึกแบบนั้นกลับมาหาผมได้อย่างไรในเมื่อผมทำงานที่ผมรักอยู่? บางทีผมก็ตอบตัวเองไปตรงๆว่าผมมันเป็นคนขี้เกียจ ถึงได้คิดแบบนี้! …