ลุยม่อนจอง ดูผาหัวสิงห์ และกุหลาบพันปี

หากถามผมว่ามีที่ไหนเหมาะกับคนที่อยากลองเดินป่าครั้งแรก ผมจะเสนอสองที่คือ ผาสองฤดู และ ม่อนจอง เพราะทั้งสองที่นี้ เดินง่าย ไม่ไกล และสวยงามตามท้องเรื่อง..

ม่อนจอง อยู่ในเขต อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ หากใครไปก็ติดต่อหน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ที่นั่นเราจะต้องต่อรถ 4WD ที่เขาจัดเตรียมไว้ให้ นั่งยาวไปอัก 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเส้นทางที่โครตมันส์ โดยเฉพาะช่วงฝนตก เหมือนได้ทริป off-road ไต่เขาไปในตัว (หาข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ศูนย์บริการการท่องเที่ยวดอยม่อนจอง) Continue reading “ลุยม่อนจอง ดูผาหัวสิงห์ และกุหลาบพันปี” »

I love not Man the less, but Nature more

There is a pleasure in the pathless woods,
There is a rapture on the lonely shore,
There is society where none intrudes,
By the deep Sea, and music in its roar:
I love not Man the less, but Nature more,

Lord Byron

ยังมีความรื่นรมย์กลางป่าเขา
ยังมีความหรรษาริมหาดร้าง
ยังมีสังคมในแดนไร้คนย่างกราย
ที่ทะเลลึกสุดใจ ยังมีท่วงทำนองกังวาล
ฉันมิได้รักมนุษย์น้อยลง..
ทว่า.. รักธรรมชาติมากกว่า…

ลอร์ดไบรอน

ทุลักทุเล และดอยสีทอง ที่ม่อนทูเล

เดือนพศจิกายน ช่วงทิ้งฝนพอดี จังหวัดตากค่อนข้างหนาวกว่ากรุงเทพฯพอสมควร โดยเฉพาะอำเภอไทยใกล้พม่า ที่ชื่อว่าท่าสองยาง และเป็นที่ตั้งของภูเขาที่ชื่อว่า “ม่อนทูเล” หรือที่ชาวปกาเกอะญอเรียกว่า “ทูเลโค๊ะ” ที่แปลว่าภูเขาสีทอง

ที่นี่ถูกผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวโดย อบต ท่าสองยาง ดังนั้นใครจะไปก็ติดต่อที่นั่นได้เลย และเขาจะเตรียมอาหารลูกหาบให้ด้วย ซึ่งเราเดินทางจากกรุงเทพไปถึงที่นั่นประมาณ 8 โมงเช้า อากาศยังเย็นสบาย แต่แดดแรงพอสมควร Continue reading “ทุลักทุเล และดอยสีทอง ที่ม่อนทูเล” »

ผาสองฤดู ไม่มาเห็นเองก็คงไม่เชื่อ

page

บอกตามตรงว่าไม่เคยได้ยินชื่อ “ผาแง่ม” หรือ “ผาสองฤดู” มาก่อน แต่ว่างพอดีก็เลยลงทริปไปเดินที่นี่สักครั้ง
อยู่ใกล้กับ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ที่หลายๆคนชอบไปดู ดอกซากุระ กันที่นั่น

เส้นทางที่ไปศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ค่อนข้างคดเคี้ยว และถนนเล็ก
ยิ่งตอนผมไปกำลังทำถนนพอดี หากธาตุไม่แข็งก็อาจมีปล่อยอาหารเช้าที่ข้างถนนได้

จัดแจงสัมภาระส่วนตัวเสร็จ ก็เดินทางต่อไปจุดเริ่มต้นเดินกันเลย

10849742_10154959973880644_3403962335262691989_n

 

ณ จุดเริ่มต้น เป็นแปลงปลูกดอกไม้และสตอเบอรี่ อยู่ไม่ไกลจากศูนย์เกษตรมากนัก

OLYMPUS DIGITAL CAMERA
ตอนเช้ามองขึ้นไปยอดดอยไม่เห็นอะไรเลย เจอแต่หมอก แต่ดูจากระยะแล้ว ไม่สูง แต่ชันแน่ๆ

10172675_10154951972970644_8351789387695523009_n

 

เป็นไปตามคาด เส้นทางไม่มีราบเลย ชันอย่างเดียว น่าจะประมาณ 30-45องศา

OLYMPUS DIGITAL CAMERA
ประเมินง่ายๆ ระยะทาง 2.7กิโลเมตร แต่ไต่ระดับความสูงจาก 1,500 ไป 2,100 เมตร ก็หนักหนาพอตัว

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

เป็นป่าดิบที่ไม่ร้อนครับ สบายๆ ต้นไม้ร่มไม้เยอะ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

แต่ยังดีที่ระยะไม่ไกล อดทนอึดใจเดียวก็จะโผล่สันเขา เป็นทางราบให้ได้พักเท้าแป๊บหนึ่ง
แล้วก็อดทนไต่ชันอีกสักนิด เพื่อไปถึงจุดกางเต็นท์

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

เมื่อไต่บนสันเขา หมอกลงแทบไม่เห็นอะไรเลย แม้แต่ยอดไม้ที่ห่างกันไม่กี่เมตร

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

พอเดินสูงมาอีกหน่อยก็เริ่มพ้นหมอก ฟ้าใสสวยงาม

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

ที่จุดกางเต็นท์ เป็นสันเขาไม่กว้างมาก มีต้นไม้ใหญ่ต้นเดียว และมีปาดหน้าดินเพื่อกางเต็นท์ไว้ให้ 5-6 หลัง (Update 14 Dec 2015 – ปัจจุบันจุดตั้งแคมป์ได้ย้ายจากจุดนี้แล้ว ถ้าเดินจากพื้นขึ้นมา จะใกล้กว่า แต่ก็ทำให้ตอนขึ้นยอดต้องเดินไกลกว่าเดิม)
ตรงนี้เอง ก็แทบจะเป็นสองฤดูแล้ว เพราะด้านหนึ่งเป็นหมอก(ด้านที่เรามา) อีกด้านฟ้าใส(ด้านทิวเขาดอยอินทนนท์)

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

และเมื่อมองไปด้านหน้าของเราก็จะเห็นวิวยอดดอยแบวีถูกปรกคลุมด้วยหมอกครึ่งซีก แบ่งเป็นสองฤดูอย่างชัดเจน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

จากที่สังเกตและฟังจากพี่ในทีมเล่า หมอกไหลจากด้านซ้ายไปขวา แต่เมื่อพ้นยอดดอย จะมีลมตีกลับ
จึงทำให้หมอกอยู่ได้แค่ฝั่งซ้ายฝั่งเดียวเท่านั้น unseen มากๆ สมคำล่ำลือครับ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

เราขึ้นไปรอดูพระอาทิตย์ตกดินกันตั้งแต่ 4 โมงเย็น อากาศเริ่มหนาวขึ้นสวนทางกับดวงอาทิตย์ที่เริ่มคล้อยหายไป
ตอนแรกผมคิดว่าหมอกเยอะจนไม่น่าได้เห็นอะไร แต่เปล่าเลยครับ ฟ้าเวลานั้นสีทองอร่าม ทำมุมกับยอดดอยอินทนนท์สวยมากๆ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

เมื่อแสงทองของอาทิตย์สาดมาทางด้านขวา มีไอหมอกที่พยายามลอยมาจากทางด้านซ้าย พื้นหลังเป็นยอดดอยอินทนนท์สูงใหญ่
มันช่างเป็นบรรยากาศที่วิเศษมากๆ ภูมิประเทศแบบนี้คงมีไม่มาก หรืออาจจะที่เดียวในไทยเท่านั้นก็เป็นได้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

บนยอดดอยแบวีจะมีพระธาตุขุนวางให้เราได้กราบไว้กัน ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์ ขอพรได้สมใจ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

และจากยอดสามารถเดินต่อไปได้อีกหน่อย เป็นสันคมมีดค่อนข้างหวาดเสียว
แต่เป็นมุมที่ผมคิดว่าถ่ายรูปได้สวยสุดๆ เพราะทั้งน่าหวาดเสียวและเห็นสองฤดูด้วย
(แสงช่วงเย็นจะเหมาะสมมาก มันช่างเหมาะกับการถ่ายทำ Profile Picture มาก ฮ่าๆๆ)

PC130312

 

และก็โชคดีต่อที่สอง ในค่ำคืนนั้นฟ้าใส และมืดสนิท ทั้งๆที่ไม่ใช่คืนเดือนมืด
ประกอบกับตรงกับวันที่มีฝนดาวตกพอดี เลยตั้งกล้องถ่ายทางช้างเผือกกัน ติดฝนดาวตกมาดวงหนึ่งแน่ะ

PC130421

 

คืนนั้นอากาศเย็นมาก แต่ไม่ถึงกับหนาว และไม่มีลม เราวัดกันได้ประมาณ 12องศา ช่างเหมาะกับนั่งปาร์ตี้และดูดาวสุดๆ
แต่ถ้าช่วงไหนมีลมวูบเข้ามา ก็สั่นสะท้านเหมือนกันครับ น้ำค้างลงจัดมาก หากใครจะไปก็เตรียมเต็นท์ดีๆ นะครับ

คืนนี้ ชม ชิม ชิล เพลินมากกว่าจะได้นอนก็ทนหนาวเกือบ 5 ทุ่ม
แต่ต้องยอมครับ โอกาสและบรรยากาศลงตัวแบบนี้ หาไม่ได้ง่ายๆ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

เช้ารุ่งขึ้นพบว่าตัวเองตื่นสายมาก 6.15 น.! เปิดเต็นท์มาทุกคนหายไปหมดแล้ว
เลยต้องรีบแต่งตัวเตรียมกล้องวิ่งขึ้นอดยแบวีเดี๋ยวนั้นเลย

ระหว่างเดินขึ้นก็เห็นเส้นขอบฟ้าสีเหลืองตลอดทาง ลุ้นอย่างเดียวว่าไปให้ทันเห็นก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

พอไปถึงยอด พบทุกคนยืนมองแบบงงๆ ว่าเอ็งมาด้วยเหรอ
แต่โครตดีใจ มาทันพอดี พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น ตอนนี้เลยกดชัตเตอร์รัวๆ ไม่สนใจอะไรแล้ว

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

บรรยากาศสวยมากๆครับ แต่แอบรู้สึกว่าช่วงอาทิตย์ตกของเมื่อวาน สวยกว่านี้มากๆ
แต่ก็คนละอารมณ์ เพราะมันขึ้นคนละฝั่งผากัน เลยได้เห็นอะไรที่เมื่อวานไม่เห็น เช่นหมู่บ้าน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

พวกเราอยู่กันไม่นานมาก พอพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาเต็มฟ้า ก็เดินลงยอดแบวีไปกินข้าวเช้ากัน

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

 

ระหว่างทางลงจากดอยแบวี เห็นเขาเชียงดาวด้วย! ไม่น่าเชื่อ เพราะมันไกลมาก อยู่คนละฝั่งเชียงใหม่เลย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

สรุปการเดินทาง

เป็นยอดที่ผมคาดว่าจะบูมต่อจากช้างเผือก และม่อนจอง
ขึ้นง่าย ลงง่าย แม้จะชันหน่อย แต่ระยะทางไม่ไกล
บนยอดวิวสวยมากๆ และน่าหวาดเสียวนิดๆ
เป็นอะไรที่ unseen จริงๆครับ ที่ได้เห็นภูเขาฟากหนึ่งเป็นหมอก อีกฟากหนึ่งฟ้าใส
ผมเข้าป่าหลายที่ก็ไม่ค่อยเห็นอะไรแบบนี้ (หรืออาจไม่สังเกตเองก็ไม่รู้นะ แหะๆ)
ว่ากันว่า หากมาช่วงฤดูกาลเหมาะสม จะเจอดอกซากุระและกุหลาบพันปีด้วยนะ

ความสวย: 10/10
ความสนุก: 8/10
ความยาก: ง่าย
แหล่งเติมน้ำ: ไม่มี

ระยะเวลาขาขึ้น: ประมาณ 2 ชั่วโมง
ระยะเวลาขาลง: ประมาณ 1 ชั่วโมง

ความสูงยอดดอย: 2,129 เมตร (จุดกางเต็นท์)
ความสูงจุดเริ่ม: 1,540 เมตร

วิธีการไป (Update 14 Dec 2015)

ติดต่อ อ้ายหือ (ลุงหือ) เบอร์โทร 087-788-0707
แจ้งจำนวนคนเดินทางไปด้วยนะครับ เพราะสถานที่กางเต็นท์มีจำนวนจำกัด
ค่าลูกหาบแบกสัมภาระ กิโลกรัมละ 50 บาท ไม่มีขั้นต่ำ

จากนั้นเดินทางไปศูนย์เกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ (แผนที่)
เพื่อเริ่มต้นเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขา

ขาขึ้น

20141213-go-up-pha-ngam

 ขาลง

20141214-come-down-pha-ngam

เส้นทางใหม่ที่ใช้ขึ้น-ลง (Update 14 Dec 2015)

ทางอ้อมกว่าทางเดิมหน่อยนึง และลูกหาบบอกว่าเหนื่อยน้อยกว่า แต่ผมว่ามันก็พอๆกันเลยนะ ฮ่าๆ
แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ จุดตั้งแคมป์เขาย้ายลงมาจากจุดเดิม ทำให้ตอนขึ้นยอดต้องเดินไกลกว่าเดิม

2015-12-14 10_57_58-Endomondo

ปอ ลิง…

เหล้าบ๊วยที่ขุนวางเป็นที่ลือเลื่องมาก หากใครชื่นชอบ แนะนำให้ซื้อพกไปบนยอดแก้หนาวครับ หวานๆเหมือนน้ำจิ้มบ๊วย  หาซื้อได้ที่ศูนย์เกษตรฯเลยครับ

10606147_10154955760795644_7065545122903493759_n

7 ข้อเสียเวลา ที่บอกว่า เที่ยวจบ แต่คนไม่จบ!

เมื่อต้องวางแผนไปเที่ยวสองวัน ช่วง เสาร์ อาทิตย์ กับเพื่อนๆ ใครจะคิดว่าไปแล้วจบแค่นั้น ลองมาดูกันครับว่า หลังจากเที่ยวจบ 2 วัน เราอาจต้องสูญเสียเวลามากกว่าที่คิด

อันนี้ลองเขียนจากข้อสังเกตส่วนตัว ที่เวลาแบกเป้ไปเที่ยวป่า หรือต่างประเทศนะครับ ซึ่งอาจจะไมเ่กิดกับเที่ยวลักษณะช็อป ชิม ชิล ระยะใกล้ๆเท่าไรนัก ลองมาดูกัน

1. เหนื่อย และอ่อนล้า (เสียเวลา 1-2 วัน)

images

จริงๆข้อนี้ไม่ควรเกิดกับการท่องเที่ยวเลยเนอะ ทุกวันนี้ผมยังสงสัยกับเพื่อนหลายคนที่ไปเที่ยว แล้ววันรุ่งขึ้นต้องลางาน เพราะเหนื่อยจากการเที่ยว ทั้งๆที่การเที่ยวนั้นควรจะความสุข ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเที่ยวแบบสะดวกสบายก็ยิ่งไม่น่าจะเหนื่อย (ตรงกันข้าม ถ้าเทียบกับกลุ่มขาลุย เดินป่าปีนเขาที่ผมรู้จัก มักไม่ค่อยพบเช่นนั้น กลับถึงบ้าน ตีสอง ตีสาม ก็ยังไปทำงานตามปกติ)

2. เก็บ ซัก อบ รีด เมื่อเดินทางกลับมาถึง (เสียเวลา 1-3 วัน)

p35458970823

ยิ่งไปเที่ยวลุย และนานแค่ไหน ก็ยิ่งต้องใช้เวลากับส่วนนี้มากเท่านั้น ของบางอย่างต้องรีบรื้อมาตากแดด แช่น้ำยา กว่าจะได้ซักหรือทำความสะอาดต้องกินเวลา 1 วัน อย่างน้อย แล้วเอามาซัก เพื่อตากแดดอีกรอบ เผลอๆ ใช้เวลารวมกันทั้งหมดอาจ 2-3 วัน และจัดเข้าที่เข้าทางอีก 30-60 นาที

3. จัดแจงของฝาก (เสียเวลา 1-2 ชั่วโมง)

1352973499_Deluxe Christmas Hamper

สำหรับคนเดินทางไปต่างประเทศ มักเจอปัญหาว่าต้องซื้อของฝาก พ่อ แม่ พี่ น้อง แฟน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนเรียน เพื่อนข้างห้อง ไหนจะเป็นเพื่อนที่ฝากซื้ออีก ต้องรื้อมาแยกถุง แกะป้ายสินค้า ถ้าเป็นคนสำคัญ เหตุการณ์สำคัญ ก็ต้องห่อของขวัญอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นของเสี่ยงต่อการบูดเน่า แตกหัก ยิ่งต้องประณีตเพิ่มขึ้น

4. ตกแต่งภาพ เขียนบล็อก และแชร์บนออนไลน์ (เสียเวลา 2-7 วัน)

941913_520642227972689_2009091540_n

ระหว่างเที่ยวเราก็มีโพสแชร์ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่จะมีพวกเก็บตกเล็กๆน้อยๆ หรือบางคนเก็บข้อมูลกลับมาแล้วค่อยๆ ทะยอยแชร์ (บางคนเรียกว่าปล่อยของ) หลังเที่ยวจบ เพื่อให้เพื่อนๆ งงเล่นว่า อินี่ทำการทำงานบ้างหรือเปล่า เที่ยวยาวตลอดอาทิตย์เลย ทั้งๆที่กลับมาตั้งแต่สามวันก่อน และยิ่งถ้าเล่นกล้องด้วย จะต้องมาคัดรูปถ่าย ตกแต่งภาพ แยกกลุ่มว่าอันนี้แชร์อันนี้ส่งส่วนตัว แยกกลุ่มว่าอันไหนโพสเว็บไหน โพสขายหรือโพสเล่น บลาๆๆๆ บางคนชื่นชอบการเขียน ก็จะใช้เวลาสำหรับเขียนเล่าเรื่องในบล็อกตัวเองหรือตาม Pantip อีกด้วย

5. ตามติดความคิดเห็นต่างๆ และข้อมูลของเพื่อนร่วมทริป (เสียเวลา 3-5 วัน)

305573e8b

หลังจากแชร์ข้อมูลไปต่างๆ นานา จะมีเพื่อนมาแสดงความเห็นตลอดแทบทุกโพส นั่นหละ จะเป็นช่วงเวลาที่เราเล่น Social Network มากกว่าปกติ (จากเดิมที่ว่าเล่นมากอยู่แล้ว ฮ่าๆ) ยิ่งไปกับกลุ่มเพื่อนหลายคน จะมีคนนั้นคนนี้ tag มาบ้าง รูปหล่อๆสยๆ บ้างจังหวะได้หน้าเหียกๆเบลอๆ ก็เฮฮาปาจิงโกะ บางคนเป็นเพื่อนใหม่ ก็ใช้เวลาย้อนไปดู Timeline เดิมๆของเพื่อนคนนั้นว่ามันเคยไปเที่ยวไหนมาบ้างวะ จะได้ถามหรือไปบ้าง

6. เม้าส์มอยกับเพื่อนๆ (เสียเวลา 2-3 วัน)

16246_002

พอกลับมาเจอหน้าเพื่อนๆที่เห็นเราโพสแชร์ ก็จะถูกถามนั่นโน่นนี่เพิ่มเติม หรือบางทีเราก็จะเริ่มเล่าเอง พูดง่ายๆ เหมือนอารมณ์ค้าง ต้องกลับมาเล่าความรู้สึกการเดินทางให้ฟังว่าฉันไปผ่านอะไรมาบ้าง สนุกอย่างไร แย่อย่างไร เหมือนเป็นการสอบสัมภาษณ์ (ส่วนในข้อ 4 ที่แชร์ เหมือนเป็นการสอบข้อเขียนประมาณนั้น)

7. นั่งคิดถึงทริปถัดไป (เสียเวลาไม่จำกัด)

images (1)

ข้อสุดท้าย หลังจากการเที่ยวเสร็จหรือกระบวนการข้อ 1-6 เริ่มเบาลง สำหรับคนที่มีความสุขในการเที่ยว เขาและเธอมักจะคิดถึงทริปถัดไปเสมอ ผ่านเว็บไซต์บ้าง การพูดคุยบ้าง หรือรูปที่เพื่อนคนอื่นเคยไปเที่ยวบ้าง เป็นแบบนี้ไปจนกว่าจะได้เริ่มออกเดินทางใหม่อีกครั้ง (และก็ย้อนกลับไปอ่านตั้งแต่ ข้อ 1)

เป็นอย่างไรครับ ใครเป็นแบบนี้บ้างยกมือขึ้น!