Lifestyle

ความไม่มั่นใจของลูกค้า กับราคาที่ต้องจ่าย

By iFew

May 29, 2021

สิ่งหนึ่งที่มองเห็นได้ง่ายที่สุดคือบั๊กของโปรแกรม แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่มักมองข้าม เพราะเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้และมองไม่เห็น นั่นคือความมั่นใจของผู้ว่าจ้างนั่นเอง

โปรแกรมเมอร์ที่มักทำงานด้วยความเร็ว และไม่ตรวจสอบให้ละเอียด จนต้องกลับมาแก้ไขงานเดิม (Rework) ของตนเอง หรือแก้ไข Bug ข้อผิดพลาดต่างๆ ซ้ำไปซ้ำมา ในงานที่ส่งมอบให้แก่ลูกค้าไปแล้ว

ถ้าคิดแบบผิวเผิน ลูกค้าเจอข้อผิดพลาด และก็ตีกลับมา ฉันก็แก้ให้ ตามสัญญาที่ว่าจ้างกันไว้ ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำปกตินี่นะ

แต่อย่าลืมว่าการต้องกลับมา Rework หรือแก้ Bug ส่งผลลัพธ์อะไรกับเราบ้าง?

ทั้งหมดนี้ผมชอบเรียกว่าเป็นกรรมเก่าของโปรแกรมเมอร์ ที่ต้องมาชดใช้ในทันที

แต่กรรมใหม่ที่จะเกิดขึ้นโดยมองไม่เห็น นั่นคือ ความเขื่อมั่นของลูกค้า ที่มีกับเรา และ/หรือ ทีมของเรา และ/หรือ องค์กรของเรา

การเสียความเชื่อมั่นของลูกค้า ไม่ได้เกิดกับโปรแกรมเมอร์คนนั้นเพียงคนเดียว แต่มักเกิดเหตุการณ์ ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง โดนไปตั้งแต่โปรแกรมเมอร์, Tester, ทีมหลีด หรืออาจเหมารวมทั้งองค์กร ว่าทำไมปล่อยงานที่มีข้อผิดพลาดเหล่านี้ ให้กับลูกค้าได้อย่างไร (เคยโดนลูกค้าถามว่า ที่บริษัทมีทีม Tester ไหม ทั้งๆที่ เขาเองก็รู้ว่าเรามี ก็แอบหน้าชาๆ อยู่)

การแก้ไขเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และไม่สามารถใช้เวลาอันสั้น อาจจะต้องเสียทั้งคน ทั้งเงิน ทั้งเวลา ไปกับเรื่องที่แค่เราทดสอบไม่ละเอียด คิดๆดูแล้วราคาที่ต้องจ่าย อาจแพงมากกว่า 5-10% ของราคาโปรเจ็คเสียด้วยซ้ำ เช่น ต้องประชุมเพื่อค้นหาสาเหตุ แก้ไขโปรแกรม รีวิวงาน ประชุมหาแผนป้องกัน จ้างทีมทดสอบภายนอก ให้ทีมภายในทดสอบใหม่ ลูกค้าทำ UAT ใหม่ เสียค่าปรับ เซ็นสัญญาป้องกันนั่นโน่นนี่ต่างๆ

การสร้างสิ่งที่ไปลดทอนความเชื่อมั่น เกิดได้ทั้งคนทำงานที่มีประสบการณ์น้อย และประสบการณ์มาก เพียงแต่อยู่ที่ว่า ใครจะมองและพยายามป้องกัน

สรุปทิ้งท้าย การทำงานใดๆก็ตาม ต้องคิดเยอะๆ และมองไปให้ถึงความเชื่อมั่นคิดถึงตนเอง คิดถึงเพื่อนร่วมงาน คิดถึงองค์กรความเชื่อมั่นใจของลูกค้าหรือคนอื่นที่มีกับตัวเรา เป็นเรื่องที่ติดตัวเราไปทุกที่เมื่อเสียแล้ว แก้ไขได้ยาก แต่ถ้าเราสร้างมาดี จะชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้งานการและชีวิตก็จะราบรื่น

29 May 2021 00:34ที่พักในซอยอารีย์, กรุงเทพมหานครฯ