การพิจารณาถึงผลกระทบของการไม่ตัดสินใจ

ในหนังสือพฤติกรรมพยากรณ์ พูดถึงเรื่อง คนเรามักมองข้ามเรื่อง “การพิจารณาถึงผลกระทบของการไม่ตัดสินใจ” ซึ่งก็จริง และเจอบ่อยๆ กว่าจะตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ คิดย้อนกลับไปอาจเป็นการลงทุนมหาศาลและเสียผลประโยชน์มหาศาล เพียงเพราะปัญหานิดเดียวที่คุยไม่จบและไม่ตัดสินใจสักที

เขาหลวงสุโขทัย

ครั้งนี้เป็นทริปหนึ่งที่ชวนใครไปก็ไม่มีใครไป ทั้งๆที่ในตอนต้นฉันชวนพวกเขาไปเขาช้างเผือก จ.กาญจนบรี เป็นภูเขายอดฮิต ณ ตอนนี้ แต่บังเอิญว่ามีเหตุบางอย่างทำให้เข้าอุทยานไม่ได้ จึงต้องเปลี่ยนเส้นทางมาที่เขาหลวงสุโขทัยแทน ฉันก็เพิ่งค้นพบตอนนี้แหละว่า ฉันหาคนรอบข้างที่จะชอบเที่ยวหนักหน่วงแบบนี้ด้วยยากพอสมควร แต่การไปครั้งนี้ฉันไปครั้งแรกกับกลุ่มเพื่อนใหม่ในเว็บไซต์ trekkerhut.com โดยเป็นเว็บบอร์ดนัดกันไปเที่ยว บางคนก็รู้จักกันมาก่อน บางคนก็เป้นแบบฉัน คือหน้าใหม่ที่ไม่รู้จักใครเลย แต่ก็เอาเถอะ ลองดูสักตั้ง

มุมมองผมกับการอ้างอิงข้อมูลในอดีต

ส่วนตัวผมคิดว่า สันดานเสียอย่างหนึ่งของคนไทยโดยเฉพาะบางกลุ่มคือ การไปหยิบข้อมูลในอดีต ที่สมัยนั้นอาจจะเคยถูกแบนหรือต้องหลบเร้นเผยแพร่ แต่หลงเหลือหลักฐานเพื่อให้ไอ้คนเหล่านั้นเอามาเผยแพร่ในปัจจุบันเพื่อมาเพิ่มความชอบธรรม ว่าบรรพบุรุษก็เคยทำมาก่อน.. แถมแม่งก็จับต้นชนปลายกันมั่ว ทำเหมือนว่าน่าจะเชื่อถือได้เพราะมีหลักฐาน แต่แม่งก็เป็นแค่มุมเล็กๆนิดเดียว คือเมิงทำแบบนี้ ไปเขียนลงต่วยตูนอ่านสนุกๆ ยังจะดีกว่ามาหลอกตีกินชาวบ้านไปวันๆนะ.. ผมไม่ให้ผ่านครับ

ขนมชั้น

ใจฉันบางทีก็เหมือนเป็นขนมชั้น ที่ชั้นบนๆ ฉันคอยทบทวนกับตัวเองอยู่เสมอว่าฉันไม่เป็นไร และไม่รู้สึกอะไรกับหลายๆเหตุการ แต่ชั้นกลางๆจนถึงล่าง ฉันเริ่มเห็นความรู้สึกของฉันที่มันชัดเจนขึ้น.. ฉันก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง ฉันเองก็เสียใจ เหงา และโดดเดี่ยว

คนที่ฉันไม่พอใจ

ในชีวิตของฉัน ฉันเคยไม่พอใจใครหลายคนจากครั้งแรกที่ฉันพบ ส่วนมากเป็นเพราะการกระทำของเขาในสถานการณ์ ณ ขณะนั้น ฉันรู้สึกโชคร้ายที่เป็นคนหงุดหงิดง่าย แต่ก็โชคดีที่ไม่แสดงออกให้ใครรู้ได้ง่ายนัก ฉันพบว่าข้อดีที่ฉันมี มันทำให้ฉันได้พยายามใช้ชีวิตร่วมกับคนเหล่านั้นได้อย่างไม่มีความผิดปกติ และคนเหล่านั้นเองก็คงไม่คิดว่าฉันจะรู้สึกไม่ดีกับเขาตั้งแต่แรกที่พบกัน เมื่อกาลเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ฉันมักพบว่าคนเหล่านั้นคือคนที่น่าคบหา ฉันตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไร เหตุผลมันมีมากมายเกินจะเขียนจบในหนึ่งบันทึก การที่เขาแสดงออกในครั้งแรกแล้วที่ฉันไม่ชอบใจ เพราะพวกเขาเป็นแบบนั้นเอง มันเป็นลักษณะอย่างหนึ่งของคนตรงไปตรงมาและผลพลอยได้ของคนเหล่านั้นคือเป็นคนจริงใจ (แต่ก็ไม่ได้หมายถึงทุกคนนะ ฉันว่าฉันพอมองออกว่าใครตรงไปตรงมาจริงๆ หรือเสแสร้งที่จะเป็น) ทุกครั้งที่ฉันเจอพวกเขาทำดีกับฉัน ฉันก็ยังแอบรู้สึกผิดลึกๆว่า เราเคยคิดไม่ดีกับเขา อาจเพราะเป็นแบบนั้น มันเลยทำให้ฉันต้องดีกับเขาตอบกระมั้ง สุดท้าย ฉันกับคนเหล่านั้นก็มักเป็นเพื่อนกัน บางคนก็สนิทระดับได้พูดคุยกันในเรื่องส่วนตัวมากๆ บางคนก็ช่วยงานกันจนเกรงใจเลยทีเดียว คนในสังคม รวมถึงครูสอนวิชาศาสนามักบอกเราว่า ให้เปิดใจเพื่อเรียนรู้คบเพื่อนใหม่ ฉันคิดว่า ถ้าฉันท่องประโยคนี้สักหมื่นครั้ง ฉันก็คงยังไม่เข้าใจอยู่ดี ที่เขียนมาทั้งหมด เพียงเพราะฉันลองพยายามนึกถึงคนที่ฉันเคยรู้จักในชีวิตนี้ และฉันไม่พอใจ คำตอบคือ ไม่มี.. .. . 6/6/2013 00:50 ห้องนอน

Exit mobile version