แคลลอรี่ที่รัก.. เราเลิกกัน! (คลิปรีวิวอาหารที่ปริมาณเกินแคลฯจนน่าตกใจ)

กำลังอยู่ช่วงลดความอ้วน เลยไปสำรวจของกินตาม Big C มาครับ

ว่าอะไรควรกินหรือไม่ควรกินหรือกินแต่น้อย
ก่อนจะดู ต้องรู้ก่อนว่า ร่างกายคนเราวันหนึ่งจะรับพลังงานได้มีขีดจำกัด
หากรับเกินกว่านั้น จะทำให้เกิดความอ้วนสะสมในแต่ละวันได้ครับ
โดย ผู้ชายจะประมาณ 2,000 – 2,200 กิโลแคลลอรี่
ผู้หญิงประมาณ 1,600 – 1,800 กิโลแคลลอรี่
ดังนั้น หากจะลดความอ้วนด้วยการอดอาหาร มันจะดูทรมานไป
แล้วเผลอๆ อาจระเบิดความทรมานด้วยการกลับไปกินดะชดเชยมากกว่าเดิมอีก
แต่ถ้าลดความอ้วนแบบสนุกๆ ขำๆ
ก็ให้ลองดูจากข้างซองของอาหารแบบที่ VDO ผมทำนี่แหละครับ
มันมักจะมีบอกไว้ว่า ถ้ากินแล้วเราจะได้แคลลอรี่เท่าไร
เพื่อให้วันหนึ่งเราไม่กินเกินนนั้น
แล้วยิ่งถ้าออกกำลังกายเสริมด้วย จะลดได้เร็วยิ่งขึ้นครับ
ปล1. ผมเลือกกินแบบนี้และออกกำลังกาย สามารถลด 9 กิโลฯ ใน 3 เดือนครับ 😀
ปล2. อาจมีคำหยาบคาย
ปล3. ไม่ได้แคร์สื่อ ดังนั้นผมจะพูดชื่อแบรนด์เต็มๆ ดีก็แนะนำ ไม่ดีก็ไม่แนะนำ
ปล4. ไม่ได้ขออนุญาติใครในการถ่ายทำ เลยต้องแอบถ่ายครับ แหะๆ
ปล5. ขอบคุณ @puilious ที่ช่วยถ่ายให้จ้ะ

2012.10.06

ในคืนวันศุกร์ที่คึกคักของเมืองใหญ่
จะเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินทางแสวงหาความสุขต่างๆนานา
บางคนเลือกที่จะกลับบ้านพักผ่อน
บางคนก็เลือกที่จะออกไปสังสรรค์กับเพื่อน
ซึ่งวันนี้ผมเลือกแบบหลัง

ในร้านที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรีและอาหาร
ผมอยู่กับกลุ่มคนที่รู้จักนิสัยดีกันพอสมควร
วันนี้เหมือนวันรวมญาติครั้งใหญ่
เราเริ่มต้นด้วยบทสนทนาและอาหารที่เสริฟอย่างไม่ขาดสาย
มีการแจกซองแต่งงาน ขายขนมที่ทำเอง
กินเค็กวันเกิด และแม้กระทั่งเรื่องเครียดๆในที่ทำงาน

ปกติผมเลือกที่จะนั่งฟังและเป็นคนตอบ ถ้าหากมีใครถาม
แต่บ่อยครั้งก็เลือกที่จะอยู่ในโลกส่วนตัวกับเสียงเพลงรอบข้าง
และก็มีบางทีที่ผมตอบคำถามในวงไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ฟังที่เขาพูดกัน
ดูเป็นนิสัยที่แย่พอสมควร ที่เราปลีกวิเวกความรู้สึกออกมาคนเดียว

แม้เป็นการกระทำที่ไม่ดีนัก แต่ผมค้นพบความสุขขณะอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย
อาจเป็นเพราะสิ่งรอบข้างที่ผมเห็น มันวุ่นวายกว่าในใจของผมก็เป็นได้
ผมกลับเลือกเสพติดโลกส่วนตัวในวงสังคมของผู้คน
ผมเลือกที่จะกั้นกำแพง แต่เป็นกำแพงกระจกด้านเดียวที่คนอื่นไม่รับรู้
แต่ผมสามารถมองออกไปได้ ตามที่ผมต้องการ

ในคืนนั้น ผมสบตามองกับหญิงสาวคนหนึ่งอยู่บ่อยครั้ง
เธอน่ารัก และค่อนข้างเป็นสเป็กผมเลยทีเดียว
แต่ผมก็เลือกที่จะยังอยู่ในกำแพงกระจกของผมต่อไปแบบเดิม

ผมได้ตอกย้ำกับสิ่งที่ผมค้นพบอีกเรื่องหนึ่งในตัวเอง
ผมอาจขอแค่มีคนที่ทำให้ผมมีความสุขได้อยู้ข้างๆ
ถึงไม่ต้องพูดกัน แค่นั้นผมก็มีความสุขเพียงพอแล้ว
บางทีความสุขที่ผมต้องการอาจเป็นแค่เสี้ยวเล็กๆที่เกิดในใจ

มันตอกย้ำว่า การผ่านพบแต่ไม่ผูกพันธ์ บางทีก็มีความสุขได้ แม้เพียงค่ำคืนหนึ่ง


posted on 06 Oct 2012 00:36 by ifew
http://ifew.exteen.com/20121006/entry

สวัสดีครับคุณความรัก

สวัสดีครับคุณความรัก
เราไม่เจอกันมานานแค่ไหนแล้วนะ
จำได้ไหมว่าหลายปีก่อนผมเคยเขียนถึงคุณ
แต่เราก็ยังไม่เคยได้พบกันสักที
มันนานไปหรือเปล่าครับ…
ฉบับนี้ที่ผมเขียนมาหาคุณอีกครั้ง
บางทีอาจเป็นเพราะผมเริ่มเหงา
แต่เอาเถอะถึงผมจะยังไม่ได้เหงาจริงๆ
แต่ผมก็เขียนมาหาคุณได้ใช่ไหม?
คุณความรักครับ
หลายปีที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นกับผมมากมาย
จะให้ผมแต่งเป็นนิยายคงได้หลายเล่มจบ
บ่อยครั้งที่ผมเกือบได้เจอคุณบ้างแล้ว
แต่คุณโชคชะตาก้เข้ามาเล่นตลกกับผมอยู่ตลอด
ด้วยอายุที่มากขึ้นในตอนนี้
ผมก็ชักไม่ตลกด้วยแล้วสินะ
จริงๆผู้ชายแบบผม เรื่องอายุคงไม่ใช่ปัญหามากนัก
แต่คุณรู้หรือเปล่า ว่าผมไปงานแต่งงานเพื่อนมาแล้วกี่งาน!
ไม่ใช่อิจฉานะ แต่เพราะมีแต่เสียเงินให้คนอื่น ไม่เคยได้เองบ้างเลย!
ฮ่าๆ ผมแค่ล้อเล่นนะครับคุณ
เพื่อนๆคนไหนแต่งไป ผมก็ดีใจด้วย
ยังไงผมก็คงจะตามหาคุณด้วยการมองเพื่อนเจ้าสาวบ้าง
คืนนี้ผมกลับไปอ่านบล็อกเก่าๆ ผมก็คิดถึงคุณ
บางทีผมรู้สึกว่าผมพยายามออกห่างคุณเพราะความกลัว
ผมกลัวว่าจะดูแลคุณไม่ดีบ้างหละ
กลัวว่าคุณดีเกินไป จนผมไม่อยากเสียคุณบ้างหละ
นึกขึ้นได้อีกครั้ง ผมก็จำไม่ค่อยได้แล้วว่าความรู้สึกของคุณมันเป็นอย่างไร
เคยมีคนบอกผมว่า
ผู้ห่างไกลจากความรัก
จะเป็นคนแข็งกระด้าง
และไม่มีความอ่อนโยน
ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น
คุณความรักครับ
ผมอยากเจอคุณอีกครั้ง
Posted on 14 Jul 2012 02:37 by ifew
http://ifew.exteen.com/20120714/entry

คำตอบวันนี้

ในความเป็นจริงของโลก คงไม่มีใครจะสมหวังไปทุกเรื่อง
และไม่มีใครที่จะมีชีวิตที่พุ่งขึ้นสม่ำเสมอตลอดเวลา
ในบางช่วงของชีวิต คนๆหนึ่งอาจได้รับบทเรียนอันแสนเจ็บปวดรวดร้าว
ความเจ็บปวดจากชีวิตขณะก้าวเดินขึ้นไปบนยอด แต่แล้วต้องกลับมาสู่เชิงดอยอีกครั้ง
เปรียบเหมือนนกที่เคยโผบินบนท้องฟ้า มีผู้คนคอยเฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา
จนวันหนึ่งด้วยความหลงผิดและไร้เป้าหมาย ต้องทำให้ตนเองปีกหัก
และร่วงลงมาแทบจะถูกผู้คนเหล่านั้นเหยียบซ้ำ เพราะไร้ความเหลียวแล
ความจริงอันปวดร้าวเช่นนี้ ถึงแม้ไม่เกิดในช่วงครึ่งแรกของชีวิต
แต่ทุกคนก็หนีไม่พ้นเมื่ออยู่ในชีวิตครึ่งหลังเป็นแน่
แต่การจะใช้เวลาไปถึงตอนนั้น ทุกอย่างอาจถูกบ่มเพาะให้เราปลงกับสิ่งที่ผ่านมาและสิ่งที่จะเกิด
แต่ที่น่าเศร้ากว่าคือ บุคคลผู้รู้แล้วว่าจะเกิดแต่ไม่หาทางยืดมันออกไปหรือแก้ไขตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้มันเป็นเพียงการเปรียบเทียบในช่วงบั้นปลายชีวิตที่ได้เขียนไว้ว่าเวลาอาจจะช่วยทำใจให้ง่ายขึ้น
และที่กล่าวมาทั้งหมดถึงเหตุการณ์เหล่านั้น คือการเกิดขึ้นในช่วงวัยเริ่มต้นของชีวิต
วัยที่กำลังแข่งขัน และบังเอิญว่าคุณเริ่มต้นดีวิ่งแซงคนอื่นมาหลายช่วง
แต่ก็ต้องสะดุดเท้าตัวเองจนหัวทิ่มอย่างไม่เป็นท่า
เจ็บกายก็เจ็บ แถมเจ็บใจเพราะคนในอัฒจรรย์บางแห่งมองคุณด้วยความเย้ยหยัน
จนบ่อยครั้งก็รู้สึกว่าชีวิตนี้คงจบสิ้นแล้ว และก้มหน้าก้มตาทำตามที่โค้ชสั่งไปตลอดชีวิต
แต่โชคยังดีที่ว่า ยังมีความคิดเล็กๆแทรกซึมเข้ามากระซิบว่า สู้เถอะ
เสียงเล็กๆเหล่านั้นชี้ให้ดูคนพิการและนักกีฬาตัวสำรองว่าเขาอาจจะไม่มีสิทธิ์ไปตลอดชีวิต! ไม่เหมือนคุณ!
และเสียงเล็กๆเหล่านั้นกระซิบต่อว่า ยอมเจ็บปวดเถอะ เพราะเป็นสิ่งที่เกิดจากการกระทำของคุณเอง
เพียงคุณรู้ตัวและเริ่มต้นตั้งไข่ชีวิตใหม่อีกครั้ง
ยอมเจ็บปวด และเสียเวลาย้อนกลับไปตอนนี้ ก่อนทุกอย่างจะสายจนเกินไป สายไปจนไม่มีโอกาสทำใดๆได้อีก
สุดท้าย คงขอบคุณตนเองที่ไม่หมดกำลังใจเพื่อตนเองไปเสียก่อน

วาเลนไทน์ที่รัก

เพียงความฝันจางๆที่ผมมองไม่ชัดเจน
ผมไม่รู้ว่ามีใครคนหนึ่งรอผมอยู่ในนั้นหรือเปล่า
บางทีแค่ในความฝัน ผมก็ไม่อยากคิดถึงเท่าไรนัก
ดูเหมือนว่าคนที่ผมอยากรู้จัก อาจดูห่างไกลจนเกินไป
ไกลจนผมมองไม่เห็นใครเลย…
การเฝ้ารอเป็นงานอดิเรกที่ผมถนัด
แม้ผมจะไม่ค่อยชอบมันนัก
แต่ให้ตายเถอะ
ทำไมมันดูรกร้างว่างเปล่าเสียเหลือเกิน
มีเพียงสายลมเท่านั้นที่ผมรู้สึก
ในห้วงเวลาแห่งวาเลนไทน์
คนโสดหลายคนรวมถึงผม
มักประชดประชันมันด้วยความเฉยเมย
แต่ก็อีกหลายคนโสดเช่นกัน
ที่ชอบประกาศถึงความโดดเดี่ยวที่ตนครอบครอง
เมื่อคนกลุ่มหลังพร้อมใจกันพูด
คนกลุ่มแรกก็พร้อมที่จะรู้สึกร่วมไปด้วย
มันเป็นบาป.. ผมขอร้อง… เห็นใจกันเถอะนะ
สุขสันต์วันวาเลนไทน์
posted on 12 Feb 2012 23:07 by ifew
source – http://ifew.exteen.com/20120212/entry
Exit mobile version