แว่บไปฟังมาแป๊บนึง ได้ refresh อะไรหลายๆอย่าง สรุปคร่าวๆไว้ประมาณนี้
Agile for non-it – พี่พฤทธิ์
- ถ้าทำงานช่วยกัน เอื้อประโยชน์กัน ดาบอาญาสิทธ์ก็ไม่จำเป็น
- ทดลอง agile ใช้อาสาสมัคร เพราะจะพร้อมเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เกณฑ์คนมา
ถ้าช้าไม่เป็น ก็เร็วไม่ได้ – พี่หนุ่ม
- ทำอะไรซ้ำๆ ทำช้าๆ ฝึกฝน ทำมันบ่อยๆ จะคล่อง แม่นยำ
- ใช้คำว่า agility แทน agile
- Agility = skills + discipline
- ถ้าคนทำงานด้วยกัน ไม่ปรับพื้นฐานและความเร็วเท่ากัน ทั้งทีมจะมีความเร็วเท่ากับคนทำงานที่ช้าที่สุด
- คนไม่มอง agile แต่มองเรื่อง process การทำงาน เช่น scrum
- Leak คือ เอาเวลาว่างเปล่าประโยชน์ กลับมาใช้ประโยชน์ได้
- Tester ต้องคิด prevent defect ให้ได้ ต้องออกมายืนนำให้ได้ ไม่ใช่ตามแก้ตามเจอทีหลัง
- Agile คนคิดเป็นคนตะวันตก จะเอามาปรับใช้อย่างไรกับคนไทยให้ได้
- ให้คิดก่อนว่าจะทดสอบอย่างไร ซึ่งจะช้ามาก ถ้า Tester ไม่มีประสบการณ์
- เราจะไม่ได้ผลลัพธ์ใหม่ในสมการเดิม
- Automation เริ่มต้นด้วยสมอง ไม่ใช่ด้วยเงิน
- Develop = coded + tested
- Programmer ต้องกลับไปทำงานตัวเองคือ เขียน unit test
- ลองไปอ่าน Scrum ใช้ในโปรเจค Sentinel ของ FBI
- SDLC เดิม เพิ่ม agility เข้าไป ถ้าดี ให้อยู่แบบเดิมก่อน อย่าเพิ่งโดดเข้า scrum หรืออื่นๆ
- กรณีเรากำลังสร้างทีม ให้ระยะเวลาปรับตัว ถ้าปรับไม่ได้ วินัยไม่ดี แปลว่าไม่เหมาะกับที่นี่ ก็ควรเอาออก
- Agile Coach = Human Change Specialist
- Reflex กับ Improve ให้ดูวุฒิภาวะของคนในทีมด้วย
- วุฒิภาวะไม่ได้อยู่ที่อายุ ให้ดูความเป็น senior junior ที่การทำงาน
- Roti = Return On Time Investment
คิดจะซิ่งต้องวิ่งให้เป็น – พี่อู
- 4 ข้อ manifesto คือให้รู้จัก Mindset ของ agile
- 12 ข้อ principle คือหลักปฎิบัติ
- Agile process
- Predefined process มีกำหนดวิธีให้เลย
- Empirical process วิธีขึ้นกับสถานการณ์
- เทียบ Project = Marathon
- Stand up meeting มีไว้สื่อสาร
- ตอนเช้าเป็นเวลาใช้คิด เพราะสมองไหลแล่นดีที่สุด
- ทำ retrospective เพื่อปรับปรุงตัวเองและทีม
(เรื่องสุดท้าย ว่าจะเขียนบล็อกพอดี ไว้จะกลับมาเล่านะ)