ในคืนเหงาๆ วันสุดท้ายของปี หลายคนกำลังหลับฝันดี และหลายคนกำลังมีความสุขในวันนี้ แต่มีบางคนที่กำลังหนีความจริง หนีโดยการไม่ถามและหนีโดยการไม่รับรู้อะไร แต่เขาก็หนีมันไม่พ้น… หลายคนพูดว่า “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย” และก็หลายคนเช่นกันที่พูดว่า “ความจริงมักเจ็บปวด” คืนนี้ก็เช่นกัน.. หลายคนที่เคยรับรู้คำบอกกล่าวนี้มาบ้าง จะพยายามไม่รับรู้และเสาะหามัน ตราบเท่าที่ตนเองจะยอมรับและทำใจได้ แต่กับเขา.. เขาไม่ปิดกั้นที่จะรับรู้ และค้นหามัน เมื่อจำเป็น เขาค่อยๆ บรรจงเปิดโลกของเธออย่างช้าๆ ด้วยความประณีต เปลี่ยนไปที่ละโลกๆ ตามที่ใจเขาจะยอมรับได้ แต่เขาคงจะลืมนึกไปหรือเปล่า ว่าการก้าวเข้ามาสู่โลกของใครสักคน โดยมิได้รับอนุญาติ มักเจอเรื่องที่ทำให้ประหลาดใจเสมอๆ ความประหลาดใจที่เป็นความจริง หลุดมาจากฟากฟ้าหนึ่งของจักรวาล ที่เธอไม่ต้องการให้เขาได้รับรู้ เขา.. ผู้ที่ไม่พร้อมจะรับรู้อะไร.. แต่พร้อมแสดงความรู้สึก.. ผิดหวัง… เสียใจ… น้ำตา… โลกไม่ใช่ของเรา.. เธอก็เช่นกัน.. source: http://ifew.exteen.com/20081231/entry
Author Archives: iFew
คุณน่ารักจัง…
ผมแอบมองคุณ หลายครั้งหลายหน ถึงยังไม่มากพอที่จะตัดสินใจ แต่ก็ทำให้ผมมั่นใจได้นะ คุณน่ารักจัง… คืนนี้ ผมนอนยิ้มอีกเช่นเคย 😀 source: http://ifew.exteen.com/20081130/entry
สมดุลแห่งชีวิต
“เต๋าที่อธิบายได้นั้น มิใช่เต๋าที่แท้จริง” ขยายความได้ว่า เต๋าอธิบายไม่ได้ เต๋าไม่มีตัวตน เต๋ามีก่อนสิ่งอื่นๆ มีก่อนจักรวาลจะเกิด เต๋าว่างเปล่า! ถ้าเต๋าอธิบายได้ว่าเต๋าคืออะไร แปลว่าเต๋าจะถูกจำกัดความว่ามีแค่นั้น เต๋า คือ ทุกสิ่ง แปลว่ามันคือทุกสิ่ง เต๋า คือ จักรวาล แปลว่าเต๋าคือจักรวาล เต๋า คือ ธรรมชาติ แปลว่าเต๋าคือธรรมชาติ หากลองแทนคำว่าเต๋าเป็นคำว่าธรรมหรือนิพพาน ก็จะได้ประโยคเหมือนกัน หากจะอธิบายให้เข้าใจแบบคนปัจจุบันที่ยังลุ่มหลงแบบเราๆ ท่านๆ รักที่อธิบายได้นั้น มิใช่ รักที่แท้จริง ขยายความได้ว่า รักอธิบายไม่ได้ รักมันไม่มีตัวตน ถ้ารักอธิบายได้ว่ารักคืออะไร แปลว่ารักจะถูกจำกัดว่ามีแค่นั้น รัก คือ ความคิดถึง แปลว่ามันคือความคิดถึง รัก คือ ความ คิดถึงและห่วงใย แปลว่ามันคือคิดถึงและห่วงใย รัก คือ รู้สึกดีต่อกัน แปลว่ามันคือความรู้สึกดีต่อกัน ขยายความแบบนี้น่าจะเข้าใจกันได้ง่ายดีนะครับ ในโลกเราตอนนี้มองแต่ด้วยตาของบุคคลผู้รู้จักแต่วัตถุนิยม เรารู้จักแต่วัตถุด้วย แล้วก็รู้จักแต่จะนิยมวัตถุด้วย เป็นความรับรู้แบบหยาบๆ ที่ไม่เข้าถึงความลึกซึ้งของจิตวิญาณ เหมือนเด็กอมมือที่รับรู้เท่าที่ตัวเองเห็นและฟัง เพราะเราถูกสะสมเป็นความทรงจำในสมองผ่านการ …
ยิ้ม
ในทุกๆวันคุณทำให้ผู้ชายนิสัยชาเขียวคนหนึ่ง กลายเป็นผู้ชายอมยิ้มรสหวานสีสดใส ถ้าผมไม่เคยเห็นหน้าคุณ คุณยังคงน่ารักเหมือนเดิม ผ่านการแสดงออกทางใจ ผู้หญิงอารมณ์ดีครับ.. ผมอิจฉาคนที่อยู่รอบข้างคุณจัง เขาได้เห็นและร่วมยิ้มไปกับคุณ.. สักวัน.. หวังว่ารอยยิ้มนั้นจะปรากฏกับผม ขอให้คืนนี้คุณมีฝันที่หอมหวาน ปล. ถ้ามีโอกาส บอกผมด้วยนะว่าอร่อยไหม 😀 source: http://ifew.exteen.com/20081127/entry
ปล่อยวาง เพราะ โลกไม่ใช่ของเรา
พักนี้ผมดูแปลกไปเนอะ ไม่ต้องฟังจากคนอื่นก็ได้ครับ แต่ผมก็รู้สึกได้เอง อารมณ์แปรปรวนเหมือนอากาศในช่วงที่ผ่านมา แต่มักมีความกดดันสูงเป็นหย่อมๆ ตกค่ำและตอนดึกของวันเริ่มผ่อนคลายบ้าง ถ้าคนที่สนิทกันจะพอรู้ว่า จริงๆ ผมเป็นคนใจเย็นนะ แต่ออกจะขี้รำคาญสักหน่อย และมักจะขี้บ่นบ่อยๆ กับคนใกล้ตัว สงสัยจะเสพรสการเมืองมากไปนิดหนึ่ง พักหลัง เลยลุยบ่อยขึ้น เมื่อเห็นความไม่ชอบมาพากลในหลายๆ เรื่อง ผมเริ่มรู้สึกเริ่มหงุดหงิดกับตัวเอง ที่ความอดทนและประณีประนอมน้อยลง พยายามแล้วนะครับ พยายามจริงๆ แต่ด้วยความเป็นคนเปิดเผยเกินเหตุ ถึงจะไม่พูดหรือแสดงกิริยาอะไรออกไป แต่หูผมจะแดง.. 😛 (ฮือๆ ผมห้ามมันไม่ได้..จริงๆ) แต่เอาเถอะครับ ห้ามกายได้ก็ต้องห้ามใจให้ได้ก่อน ใจมันว่าง กายมันก็จะไม่ร้อนผ่าว หูมันก็จะไม่แดงเอง จริงมะครับ.. วันนี้จู่ๆ เพื่อนก็ พูดมาประโยคหนึ่ง “โลกไม่ใ่ช่ของเรา” จริงๆ มันมีอีกคนพูดมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่ได้สนใจอะไร ได้ยินปุ๊บ อ่อ มันคือชื่อเพลง จบ.. ฮา… วันนี้เลยมีโอกาสได้นั่งคิดใคร่ครวญพรรณาแสวงหาพินิจพิเคราะห์เจาะจงในความหมาย [จะยาวไปไหน?] เออ ว่ะ “โลกไม่ใช่ของกู กูบังคับมันไม่ได้..” “งานก็ไม่ใช่ของกู กูไม่ต้องทำก็ได้..” อ่ะ ประโยคหลังนี่ล้อเล่นๆ …