คุณน่ารักจัง…

ผมแอบมองคุณ หลายครั้งหลายหน ถึงยังไม่มากพอที่จะตัดสินใจ แต่ก็ทำให้ผมมั่นใจได้นะ   คุณน่ารักจัง…   คืนนี้ ผมนอนยิ้มอีกเช่นเคย 😀 source: http://ifew.exteen.com/20081130/entry

สมดุลแห่งชีวิต

“เต๋าที่อธิบายได้นั้น มิใช่เต๋าที่แท้จริง” ขยายความได้ว่า เต๋าอธิบายไม่ได้ เต๋าไม่มีตัวตน เต๋ามีก่อนสิ่งอื่นๆ มีก่อนจักรวาลจะเกิด เต๋าว่างเปล่า! ถ้าเต๋าอธิบายได้ว่าเต๋าคืออะไร แปลว่าเต๋าจะถูกจำกัดความว่ามีแค่นั้น เต๋า คือ ทุกสิ่ง แปลว่ามันคือทุกสิ่ง เต๋า คือ จักรวาล แปลว่าเต๋าคือจักรวาล เต๋า คือ ธรรมชาติ แปลว่าเต๋าคือธรรมชาติ หากลองแทนคำว่าเต๋าเป็นคำว่าธรรมหรือนิพพาน ก็จะได้ประโยคเหมือนกัน หากจะอธิบายให้เข้าใจแบบคนปัจจุบันที่ยังลุ่มหลงแบบเราๆ ท่านๆ รักที่อธิบายได้นั้น มิใช่ รักที่แท้จริง ขยายความได้ว่า รักอธิบายไม่ได้ รักมันไม่มีตัวตน ถ้ารักอธิบายได้ว่ารักคืออะไร แปลว่ารักจะถูกจำกัดว่ามีแค่นั้น รัก คือ ความคิดถึง แปลว่ามันคือความคิดถึง รัก คือ ความ คิดถึงและห่วงใย แปลว่ามันคือคิดถึงและห่วงใย รัก คือ รู้สึกดีต่อกัน แปลว่ามันคือความรู้สึกดีต่อกัน ขยายความแบบนี้น่าจะเข้าใจกันได้ง่ายดีนะครับ ในโลกเราตอนนี้มองแต่ด้วยตาของบุคคลผู้รู้จักแต่วัตถุนิยม เรารู้จักแต่วัตถุด้วย แล้วก็รู้จักแต่จะนิยมวัตถุด้วย เป็นความรับรู้แบบหยาบๆ ที่ไม่เข้าถึงความลึกซึ้งของจิตวิญาณ เหมือนเด็กอมมือที่รับรู้เท่าที่ตัวเองเห็นและฟัง เพราะเราถูกสะสมเป็นความทรงจำในสมองผ่านการ …

ยิ้ม

ในทุกๆวันคุณทำให้ผู้ชายนิสัยชาเขียวคนหนึ่ง กลายเป็นผู้ชายอมยิ้มรสหวานสีสดใส ถ้าผมไม่เคยเห็นหน้าคุณ คุณยังคงน่ารักเหมือนเดิม ผ่านการแสดงออกทางใจ ผู้หญิงอารมณ์ดีครับ.. ผมอิจฉาคนที่อยู่รอบข้างคุณจัง เขาได้เห็นและร่วมยิ้มไปกับคุณ.. สักวัน.. หวังว่ารอยยิ้มนั้นจะปรากฏกับผม   ขอให้คืนนี้คุณมีฝันที่หอมหวาน   ปล. ถ้ามีโอกาส บอกผมด้วยนะว่าอร่อยไหม 😀   source: http://ifew.exteen.com/20081127/entry

ปล่อยวาง เพราะ โลกไม่ใช่ของเรา

พักนี้ผมดูแปลกไปเนอะ ไม่ต้องฟังจากคนอื่นก็ได้ครับ แต่ผมก็รู้สึกได้เอง อารมณ์แปรปรวนเหมือนอากาศในช่วงที่ผ่านมา แต่มักมีความกดดันสูงเป็นหย่อมๆ ตกค่ำและตอนดึกของวันเริ่มผ่อนคลายบ้าง ถ้าคนที่สนิทกันจะพอรู้ว่า จริงๆ ผมเป็นคนใจเย็นนะ แต่ออกจะขี้รำคาญสักหน่อย และมักจะขี้บ่นบ่อยๆ กับคนใกล้ตัว สงสัยจะเสพรสการเมืองมากไปนิดหนึ่ง พักหลัง เลยลุยบ่อยขึ้น เมื่อเห็นความไม่ชอบมาพากลในหลายๆ เรื่อง ผมเริ่มรู้สึกเริ่มหงุดหงิดกับตัวเอง ที่ความอดทนและประณีประนอมน้อยลง พยายามแล้วนะครับ พยายามจริงๆ แต่ด้วยความเป็นคนเปิดเผยเกินเหตุ ถึงจะไม่พูดหรือแสดงกิริยาอะไรออกไป แต่หูผมจะแดง.. 😛 (ฮือๆ ผมห้ามมันไม่ได้..จริงๆ) แต่เอาเถอะครับ ห้ามกายได้ก็ต้องห้ามใจให้ได้ก่อน ใจมันว่าง กายมันก็จะไม่ร้อนผ่าว หูมันก็จะไม่แดงเอง จริงมะครับ.. วันนี้จู่ๆ เพื่อนก็ พูดมาประโยคหนึ่ง “โลกไม่ใ่ช่ของเรา” จริงๆ มันมีอีกคนพูดมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่ได้สนใจอะไร ได้ยินปุ๊บ อ่อ มันคือชื่อเพลง จบ.. ฮา… วันนี้เลยมีโอกาสได้นั่งคิดใคร่ครวญพรรณาแสวงหาพินิจพิเคราะห์เจาะจงในความหมาย [จะยาวไปไหน?] เออ ว่ะ “โลกไม่ใช่ของกู กูบังคับมันไม่ได้..” “งานก็ไม่ใช่ของกู กูไม่ต้องทำก็ได้..” อ่ะ ประโยคหลังนี่ล้อเล่นๆ …

ตลกๆ

“คืนนี้คุณจะฝันดีอย่างที่ผมคิดหรือเปล่านะ..” ความคิดเล็กๆ หลุดออกจากลิ้นชักในสมองของผม เวลาที่เรารู้สึกดีๆ กับใครสักคน ถึงเขาไม่รู้ แ่ต่เราก็ดูจะมีความสุขคนเดียวได้   สำหรับความรัก คุณรู้หรือเปล่าครับ ผมขี้อาย.. อายที่จะบอกอะไรจริงจังและตรงๆ แต่คุณคงรู้สึกว่าทำไมผมตลกจัง และนั่นคงเป็นวิธีการสื่อสารของผมเอง 😀   อยากให้คุณเชื่อนะครับ ถึงผมจะอายไม่แสดงอะไรออกมาตรงๆ แต่ผมก็จริงใจนะ!   ผมไม่รู้เหมือนกัน ว่าเพราะแบบนี้หรือเปล่า เพื่อนผมหลายคน จึงเป็น “ตลกอกหัก”   ว่าแต่ คุณจะหักอกผมอีกคนไหมครับ..

Exit mobile version