เดียวดายกลางสายลม

“…บินไปเดียวดายกลางสายลมแปรปรวน เพียงทะเลครวญฟังคล้ายเป็นเพลงเศร้า ค่ำคืนนี้ฉันเพลีย ฉันเหนื่อยฉันหนาว และเหงาเหลือเกิน..” จู่ๆ น้ำเสียงของคุณนรีกระจ่าง ก็ปลิวมาเบาๆ ระหว่างที่ผมกำลังชงชา “ทำไมเพลงนี้ช่างดูเหงาเหลือเกิน..” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกผมที่ได้ฟัง แต่เป็นครั้งแรกที่ได้จินตนาการตาม “นกตัวหนึ่งพลัดรักมาจากที่แสนไกล” “เห็นจากผืนดิน บินเหมือนร่าเริง แต่ใครเลยจะรู้ว่ามันกำลังเศร้าและเหงาเพียงใด” ผมเดินมานั่งข้างเตียงเพื่อฟังให้ถนัดขึ้น “…ไม่เคยมีใครมีรักแท้จริงใจ จะมองทางใดดูเคว้งคว้างว่างเปล่า ฝ่าลมฝนลำพังมากี่ร้อนหนาว จนล้าสิ้นแรง ไม่อยากเห็นภาพใดแม้แต่ท้องฟ้า อยากจะพักดวงตาลงชั่วกาล จะไปซุกตัวนอนซ่อนกายในเงาจันทร์ จะหลับฝันไม่ขอตื่นขึ้นมา…” .. …. ผมได้แต่นั่งดื่มชาเงียบๆ และคิดถึงแต่นกตัวนั้น “มันคงเหนื่อยน่าดู” คุณรู้ไหมครับ ผมมีความสุขนะ กับการได้ทำอะไรแม้จะไม่มากนัก เพื่อคนที่ผมรู้สึกดี แต่ผมแอบเหนื่อยเล็กๆ ที่ไม่รู้เมื่อไรคุณจะรู้สึกว่ามีผมคอยห่วงใย “…คงจะมีเพียงลมหายใจรวยริน เอนกายบนดินยอมรับความแพ้พ่าย ปีกของฉันมันหนัก บินต่อไม่ไหว จะขอพักกายชั่วกาล…” เพลงจบที่ท่อนนี้ แต่ความคิดและความรู้สึกของผมยังคงต่อเนื้อเพลงต่อไป.. ผมไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน.. นั่นคงต้องแล้วแต่คุณ.. — http://ifew.exteen.com/20091105/entry posted on 05 Nov 2009 23:57 by ifew

03.10.2552

ในเวลาที่เหมือนเดิมกับทุกวัน คล้ายจะมีบางอย่างที่เปลี่ยนไป แต่ ณ เวลานี้ ผมยังพยายามที่จะนึกอยู่..   บางทีเรากำลังหลงลืมอะไรบางอย่าง บางอย่างอาจอยู่นอกตัวเราออกไปไกลแสนไกล แต่บางอย่างนั้นอาจอยู่ใกล้ๆ เพียงแค่หัวใจและความคิดเราเอง..   หลายวันผ่านมางานเยอะ นอนดึกแทบทุกวัน เวลาที่ความคิดนอกลู่นอกทางแทบเป็นศูนย์ ผมไม่เคยรู้สึก ว่างๆ เบาๆ มาหลายอาทิตย์แล้วสินะ พอรู้สึกอีกที ก็ “เหงา” จนเต้มประดาเลยทีเดียว   ชาเขียวใส่นมหน้าออฟฟิตเจ้าประจำ ผมไม่ได้ชิมรสชาติของมันมาพักใหญ่ๆ ได้เพียงแต่ก้มหน้าและรีบเดินผ่านไป คงทำแบบนี้ไปจนกว่าจะหยุดคิดถึงมันได้   ผมชอบบรรยากาศแบบวันก่อนๆ ที่ผ่านมานะ สายฝนเม็ดไม่ใหญ่นัก โปรยปรายเป็นละออง ไม่ถึงกับเปียก แต่ก็พอให้เย็นและรู้สึกดี แต่บางครั้งลมก็แรงพอทำให้ชุ่มโชกได้   บางอย่างที่เราทำ หรือถูกกระทำมากเกินไป คงไม่มีความสุขเสมอไป แม้มันส่งผลดีหรือไม่ดีแก่เรา สิ่งที่คิดว่าดี มันแค่ดีกับความอยากของเราเองหรือเปล่า ประโยคข้างต้น ผมรวมถึง ความรัก ด้วยเช่นกัน

19.05.2552

หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
เราเจอกันสองครั้งแล้วนะครับ

รอยรักยิ้มข้างแก้มและดวงตาที่สดใส
กลิ่นหอมจางๆ ที่ปลิวพร้อมกับเส้นผม
คุณไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิม…

บางสิ่ง บางอย่าง

คืนนี้ผมง่วงจังเลยครับ แต่ไม่รู้ทำไมยังไม่อยากนอน ตอนนี้ผมอยู่บ้านหลังเดิม ในห้องที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมไปมาก แต่ความรู้สึกยังคงเหมือนไม่กี่ปีก่อน แม้บางอย่างถูบฉาบลงด้วยฝุ่นจางๆ และบางอย่างถูกเก็บไว้ในลิ้นชัก แต่นั่นคงไม่สำคัญเท่ากับความรู้สึกแรกที่รับไว้ในมือ ผมเคยมีปากเสียงกับเจ้าของของเหล่านั้น เขาถามผมว่า “ทำไมเขาให้อะไรไป ผมถึงไม่ใช้มัน” “ผมอยากเก็บมันไว้นานๆ” ผมตอบ เขาหยิบของเหล่านั้นและพูดกับผม “ถ้าตัวเองเก็บไว้และไม่ใช้ มันก็ไม่มีประโยชน์” ใช่ ผมยังคงจำใบหน้าและน้ำเสียงของผู้พูด ณ เวลานั้นได้ มาตอนนี้ ผมรู้สึกเห็นด้วยกับความคิดนั้น อย่างน้อย เราได้ตัดเรื่องเสียความรู้สึกไปได้อีกเรื่องหนึ่ง และบางที การเก็บไว้เป็นที่ระลึก อาจจะไม่มีค่าอะไรเลย เมื่อใครบางคนจากไป เลื่อนปิดลิ้นชักไว้เหมือนเดิม… — http://ifew.exteen.com/20090424/entry posted on 24 Apr 2009 00:45 by ifew

ขอบคุณนะ ที่ทำให้ผมคิดถึง

“นานเท่าไรแล้ว ที่เราอยู่คนเดียว” เสี้ยวความคิดหนึ่งที่หลุดลอยออกมา โดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมพยายามจะนึกมัน แต่ก็เลือนลางเสียเหลือเกิน แต่ช่างเถอะ อยู่ได้มานาน เราก็คงจะชินแล้วหละ(มั้ง)

Exit mobile version